แนวโน้มสภาพสังคมที่ครอบครัวมีขนาดเล็กลง และคนโสดอยู่ลำพังก็มากขึ้นจนการปรุงอาหารทานเอง เป็นเรื่องฟุ่มเฟือยที่ไม่คุ้มค่า ทั้งต้นทุนวัตถุดิบและเครื่องปรุง รวมทั้งเวลาและโอกาสที่ต้องจ่ายแพงกว่ามากหากต้องลงมือทำอาหารเองทุกมื้อ
ช่องทางขายอาหารพร้อมกินแบบสั่งส่งหรือ Delivery… ท่ามกลางการเติบโตของ Lazy Economy หรือเศรษฐกิจคนรักสบาย… โดยมีคนหากลยุทธ์มาเอาใจสารพัด และอำนวยความสะดวกสุดๆ ทำให้ Food Delivery เติบโตอย่างก้าวกระโดด แม้ในต่างจังหวัด
เดี๋ยวนี้ Food Delivery ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยพฤติกรรมการสั่งส่งอาหารของลูกค้า นับวันจะเริ่มเปลี่ยนไป จะอยู่บ้าน อยู่ที่ทำงาน หรือแม้แต่จอดรถรอลูกเรียนพิเศษ… จะดึกแค่ไหนก็พร้อมจ่ายเงินสั่งอาหาร Delivery มาส่ง… แม้แต่มื้ออาหารที่คิดไม่ออกว่าจะกินอะไรดี
ข้อดีของการที่ร้านอาหารเป็นพาร์ทเนอร์กับFood Delivery มีข้อดีมากมาย… ยกตัวอย่างเช่น
1. ช่วยเพิ่มยอดขายได้ทันที
2. App Food Delivery เป็นช่องทาง Digital Marketing ที่ทรงพลังในการโปรโมทร้าน และเมนูได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำและไม่ต้องใช้ทักษะทาง Digital Marketing มากมาย
3. ทำให้ร้านอาหารมีบริการ Delivery ได้โดยไม่ต้องจ้างพนักงาน ไม่มีต้นทุนเงินเดือนพนักงาน แต่ได้งานบริการและยอดขายโดยไม่เสียที่นั่งในร้าน
4. สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดร่วมกับ Food Delivery Platform เพื่อกระตุ้นยอดขาย หรือสร้างกระแสความรับรู้ให้กับร้านได้ง่ายๆ
และต่อไปนี้คือ Food Delivery ทั้งหมด 4 รายที่กำลังแข่งกันให้บริการสั่งส่งอาหารในประเทศไทย… ผมขออนุญาติไม่ใส่รายละเอียดเพราะแต่ละแพล็ตฟอร์มก็จะมีความเคลื่อนไหวค่อนข้างเร็ว ในการตอบสนองการแข่งขัน… ท่านสนใจเจ้าไหนก็ลองคลิกลิงค์เข้าไปศึกษาเพิ่มเติมน๊ะครับ… แต่ละเจ้ามีรายละเอียดและพื้นที่ให้บริการที่ต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนใช้บริการ… แต่ก็แนะนำว่า ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ให้บริการ ก็ไม่มีอะไรเสี่ยงที่จะลองตามกระแสนี้หรอกครับถ้าท่านขายอาหารอยู่แล้ว… หรือจะลองเปิดครัวรับออเดอร์สั่งส่งเฉพาะก็คงไม่ยากเท่าไหร่
1. Wongnai x LINE MAN Delivery

2. Grab Food

3. Food Panda

4. Get Food
