คำอย่าง “สังคมการเรียนรู้” หรือ”การเรียนรู้ตลอดชีวิต” เป็นคำใหญ่ที่ผมเองก็เชื่อหมดใจว่า นี่คือแนวทางการศึกษาของยุคสมัยเราอย่างแท้จริง… แต่การออกแบบและจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ที่มีทรัพยากรเพื่อสนองตอบการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างแท้จริงนั้นไม่ง่าย… ซึ่งวันนี้ผมคิดว่าควรจะพาทุกท่านย้อนกลับไปทำความรู้จักกับโมเดลการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ที่เรียกว่า Andragogy ครับ
โดยทั่วไป… พอพูดถึงคำว่าเรียนหรือไปเรียน สิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดถึงในแวบแรกน่าจะเป็นโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ซึ่งทั้งหมดเป็นรูปแบบการเรียนที่ชื่อว่า Pedagogy มาจากภาษากรีกคำว่า Paedagogo แปลว่า To Lead The Child หรือการนำทางเด็ก หรือสอนเด็กนั่นเอง… และแน่นอนว่าผู้ใหญ่หลายคนไม่อยากเจอแบบนั้นหรอก

ดังนั้นการจะสร้างโมเดลให้ผู้ใหญ่อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เราจำเป็นต้องกลับมาดูทฤษฎีการเรียนรู้ผู้ใหญ่ หรือ Andragogy ซึ่งริเริ่มโดย Dr. Malcolm Knowles ผู้เขียนหนังสือชื่อ Informal Adult Education: A Guide for Administrators, Leaders, and Teachers… พิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่ปี 1950 และเป็นคนบัญญัติคำว่า Andragogy ขึ้นแทนคำว่า Pedagogy of Adult Education ที่ใช้กันมาก่อนหน้าด้วย

Dr. Malcolm Knowles ได้นิยามคำว่า Andragogy ไว้ว่า… Andragogy เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ในการช่วยให้ผู้ใหญ่เรียนรู้ และตั้งสมมุติฐานคุณลักษณะของผู้เรียนวัยผู้ใหญ่ไว้ 5 แนวทางคือ
- ผู้เรียนวัยผู้ใหญ่ได้หลุดพ้นจากการพึ่งพาสู่ความเป็นอิสระที่สามารถชี้นำตนเองได้ทุกเรื่องรวมทั้งการเรียน
- ผู้เรียนวัยผู้ใหญ่สามารถดึงประสบการณ์ชีวิตมาเสริมและช่วยการเรียนรู้ได้
- ผู้เรียนวัยผู้ใหญ่พร้อมที่จะเรียนรู้ตามการเปลี่ยนแปลงของบทบาทใหม่ทางสังคมและบทบาทใหม่ในชีวิต
- ผู้เรียนวัยผู้ใหญ่เน้นการเรียนรู้โดยมีปัญหาเป็นศูนย์กลาง และนำสิ่งที่เรียนรู้ไปปรับใช้กับปัญหาได้ทันที
- ผู้เรียนวัยผู้ใหญ่มีแรงจูงใจใฝ่รู้จากภายใน มากกว่าแรงจูงใจจากภายนอก
ทฤษฎีของโนลส์ หรือ Andragogy Theory เป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาระบบการศึกษาแบบ Self-directed Learning ในเวลาต่อมา และกำลังพัฒนาไปสู่ Lifelong Learning ในปัจจุบันและอนาคต
ประเด็นก็คือ… การวางแผนจัดการการเรียนรู้และการศึกษาสำหรับวัยผู้ใหญ่ หรือแม้แต่การจัดสภาพแวดล้อมการศึกษาแบบให้ผู้ใหญ่เรียน จำเป็นต้องพิจารณาบริบทและสาระให้สอดคล้องกัน
งานวิจัยของวุทธิศักดิ์ โภชนุกูล ตีพิมพ์เผยแพร่ในปี 2550 ได้อ้างถึง ความเชื่อเบื้องต้นของทฤษฎีการเรียนรู้ Andragogy โดยวางกรอบอ้างอิงความเชื่อในตัวผู้เรียนไว้ 4 แนวทางคือ
- บุคคลมีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเอง หรือ Unique และมีความเป็นปัญเจกหรือลักษณะเฉพาะตน
- บุคคลต้องการการพัฒนาไปในทางที่ดีตามศักยภาพของตน
- การเรียนรู้เป็นกระบวนการภายในของผู้เรียน คนอื่นๆ เป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้
- บุคคลต้องสามารถชี้นำตนเอง หรือ Self-directing
กรอบความเชื่อทั้ง 4 แนวทางนี่เองที่นำไปสู่การออกแบบโมเดลการเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่… และขยายผลและปรับปรุงไปสู่โมเดลการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตในลำดับต่อมา… มาดูกันหน่อยครับว่า โมเดลการเรียนรู้สำหรับผู้ใหญ่ หรือ Andragogical Model มีพลังแฝงอะไรซ่อนอยู่ในตัวผู้เรียนบ้าง
- Need to Know หรือมีความต้องการรู้
- Self Concepts หรือมีแนวคิดหรือทัศนะส่วนตน
- Role and Experience หรือมีบทบาทและประสบการณ์
- Readiness to Learn หรือมีความพร้อมที่จะเรียนรู้
- Orientation to Learning หรือมีหนทางนำไปสู่การเรียนรู้
- Motivation หรือมีแรงจูงใจ
กรอบสมมติฐานต่าง ๆ ทั้ง 6 เหล่านี้… สามารถนำไปใช้เป็นกรอบในการคิดออกแบบ “รูปแบบของประสบการณ์การเรียนรู้” หรือ Design of Learning Experience Format ให้สอดคล้องกับผู้เรียน
ผมขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดที่ลึกกว่านี้แล้วน๊ะครับ เพราะไม่ว่าจะขยายความต่อหรือพอเท่านี้… ทุกกรณีของการตีความทฤษฎี เป็นเรื่องการทำความเข้าใจในแง่มุมและบริบทของผู้ตีความมากกว่า… ส่วนการตีความเพื่อนำไปปรับใช้ ทุกท่านคงทราบอยู่แล้วว่า ทฤษฎีบริสุทธิ์เอาไปทำอะไรไม่ได้หรอก ถ้าไม่ตีความให้เข้ากับบริบทชนิดที่ผสมกลมกลืน หรือ Blend ไปด้วยกันเป็นรายกรณีไป…
เอาเป็นว่า… Lifelong Learning ต้องจัดการศึกษาด้วยกรอบทฤษฎี Andragogy มากกว่า Pedagogy โดยยึด Self-directed Learnings จากการโฟกัสปัญหาเป็นศูนย์กลาง
อันนี้เป็นหลักการ… ส่วนวิธีการก็แล้วแต่บริบทกับจินตนาการแล้วหล่ะครับ!
อ้างอิง
https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/35127/29186
http://cooolworld2010.blogspot.com/2009/11/andragogical-model.html
https://www.gotoknow.org/posts/258875
https://en.wikipedia.org/wiki/Malcolm_Knowles