การเป็นผู้นำในทางเทคนิคจะหมายถึง… การมีอิทธิพลเหนือคนอื่นในทีม หรือ องค์กร หรือ กลุ่มคน ซึ่งเป็นอิทธิพลที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบยิ่งกว่าคนอื่นๆ โดยเฉพาะความรับผิดชอบต่อ “พฤติกรรมของผู้นำ” ที่แสดงออกกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ทั้งที่ตั้งใจ และ เป็นไปโดยสัญชาตญาณ รวมทั้งปฏิกิริยาอัตโนมัติที่เป็นไปเอง… โดยความสำเร็จ และ ความล้มเหลวของผู้นำส่วนใหญ่ล้วนมาจากพฤติกรรมที่แสดงออกต่อคนอื่นๆ ซึ่งคนอื่นๆ จะตีความการแสดงออกในแต่ละกรณีผ่านการรับรู้ของพวกเขา และ ให้คุณค่ากับภาวะผู้นำด้วยค่าเฉลี่ยจากการรับรู้พฤติกรรมของผู้นำเองว่า… สร้างการยอมรับนับถือต่อพวกเขาได้แค่ไหน หรือ ทำลายความเชื่อมั่นและการยอมรับไปแค่ไหนอย่างไร
ประเด็นก็คือ… พฤติกรรมที่ส่งผลถึงการยอมรับภาวะการนำจะหมายถึง “ทักษะผู้นำ หรือ Leadership Skills” ที่สร้างผลกระทบเชิงบวก และ สร้างสรรค์กับทีม หรือ องค์กร หรือ กลุ่มคนภายใต้การนำ… โดยมีพฤติกรรมบ่อนทำลายภาวะผู้นำน้อยมาก หรือ ไม่มีเลยในตัวผู้นำคนนั้น
Dede Henley ผู้ก่อตั้ง Henley Leadership Group เพื่อให้บริการ Leadership Mentoring มานานกว่า 18 ปี ชี้ว่า… การเป็นผู้นำที่จะประสบความสำเร็จได้จำเป็นจะต้อง “กำจัดจุดอ่อน” ที่เป็นพฤติกรรมบ่อนทำลายภาวะผู้นำให้หมดไปให้ได้มากที่สุด และ ยังต้องระมัดระวังพฤติกรรมที่แสดงออกโดยอัตโนมัติที่เธอนิยามว่าเป็น Auto-Pilot ของผู้นำที่ทำอะไรไปโดยไม่ได้คิด และ ขาดการไตร่ตรองโดยไม่รู้ตัว… ซึ่งถ้าจะนิยามตรงไปตรงมาก็จะหมายถึง “นิสัย” อันเป็นประพฤติกรรมด้วยความเคยชิน… โดยเฉพาะประพฤติกรรมด้วยความเคยชินที่ไม่เป็นผลดีแม้แต่น้อยกับการนำคนอื่นๆ
บทความของ Dede Henley บนเวบไซต์ Forbes.com ได้รวบรวมพฤติกรรม 10 ประการที่บ่อนทำลายภาวะผู้นำที่พบบ่อยที่สุดในองค์กรประกอบด้วย…
- Do It Myself หรือ ข้าพเจ้าทำเอง… ซึ่งเป็นการวางกับดักให้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับข้าฯ และ มีแต่ข้าฯ ที่ใส่ใจจะทำ ซึ่งเป็นการมองคนอื่นด้อยค่ากว่าโดยปริยาย
- Self Righteousness หรือ ข้าพเจ้าไม่ผิด… ซึ่งมองหาบางคน หรือ บางสิ่งเพื่อตำหนิ ประณาม และ วิพากษ์วิจารณ์
- Self Sabotage หรือ บ่อนทำลายตัวเอง… ซึ่งจะเห็นพฤติกรรมหมกมุ่น และ เคร่งเครียดอยู่กับความล้มเหลว
- Acting Politically หรือ เล่นการเมือง… ซึ่งจะเป็นพฤติกรรมการสร้างภาพ แย่งผลงาน และ ทำลายคู่แข่งและคนที่เห็นต่าง
- Cynicism หรือ วาจาถากถางดูแคลน… ซึ่งจะเป็นพฤติกรรมติติงโดยไม่สุจริต ที่ไม่มีประโยชน์กับใครเลย โดยเฉพาะตัวเอง
- Sarcasm หรือ วาจาเหน็บแนมเย้ยหยัน… ซึ่งจะเห็นการเหยียดหยามด้วยลีลาผู้เชี่ยวชาญการกลั่นแกล้ง หรือ Bullying Specialist แบบเด็กเกเรไม่มีใครสั่งสอนมาดี
- Intellectualization หรือ ขี้โอ่อวดรู้… ซึ่งเป็นพฤติกรรมสู่รู้ อวดอ้าง และ ท้าทายความคิดคนอื่นๆ ไปหมด ทั้งๆ ที่บ่อยครั้งกลับรวบรวมไอเดียจากคนอื่นๆ ในที่ประชุมมาอวดโอ่วางท่าว่ารู้ดี
- Domination หรือ ครอบงำคนอื่น… ซึ่งเป็นพฤติกรรมการใช้ตำแหน่ง และหรือ อำนาจกับคนอื่นๆ ด้วยความก้าวร้าว ไม่เป็นมิตร และ ขาดความเป็นธรรม
- Coalition Building หรือ หาแนวร่วม… ซึ่งเป็นพฤติกรรมการสร้างกลุ่มก๊วนที่เห็นดีเห็นงามกับตน รวมทั้งนินทาว่าติคน หรือ กลุ่มคนที่เห็นต่างจากตนและพวกตน
- Withdrawal หรือ ล้มเลิกถอนตัวโดยไม่มีเหตุผล… ซึ่งเป็นพฤติกรรมไม่ได้ดั่งใจก็ไม่เอาด้วย และ ใช้อารมณ์แบบคนพาล
แค่มีพฤติกรรมเพียงข้อเดียว หรือ สองสามข้อของทั้งหมดสิบข้อที่ยกมา… ดูเหมือนจะไม่น่ารัก และ อยู่ด้วยยากอย่างชัดเจน
References…