ช่วงนี้ผมหมกมุ่นกับ Blockchain หลายโมเดล… ความรู้สึกตอนนี้เหมือนได้ย้อนกลับไปสนุกสนานกับ World Wide Web… HTML และ Netscape Navigator ช่วงต้นยุค 90’s ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เราได้สัมผัสเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกอันทรงพลังที่รู้ได้ว่า… ตาที่เห็นกับมือที่สัมผัสได้โดยเรานั้น เป็นเพียงอนุภาคของข้อมูลข่าวสาร ไม่ต่างเห็บหมัดตัวเล็กๆ ในทางช้างเผือก
ประเด็นเป็นแบบนี้คือ… บล็อกเชนในโมเดลทางการเงิน และ Cryptocurrencies ถือว่าเป็นโมเดลมาตรฐานไปแล้วสำหรับคนทำบล็อกเชน ซึ่งในปัจจุบันก็ไม่มีใครสงสัยแคลงใจในพลัง และ อิทธิพลของบล็อกเชนที่อยู่เบื้องหลังของจักรวาลคริปโตกันแล้ว… ในขณะที่บล็อกเชนในโมเดลของ IoT บ้าง… Smart Factory บ้าง หรือแม้แต่ในโมเดล Smart City ซึ่งการออกแบบระบบนิเวศเพื่อนำบล็อกเชนมาสร้างมาตรฐานด้านข้อมูล โดยวิสัยทัศน์พันธกิจทั้งหมด ล้วนอยู่ในมือคนที่เข้าใจและเข้าถึงเทคโนโลยีระดับนวัตกรกันหมด… แปลว่าได้เกิดและพัฒนาไปอย่างที่ควรเป็นอยู่แล้ว
แต่ความเคลื่อนไหวเรื่องการประยุกต์ใช้บล็อกเชนในอุตสาหกรรมการศึกษา ซึ่งกำลังเป็นหนึ่งในการแข่งขันสร้างมาตรฐานด้านการศึกษายุคใหม่ ที่จะมี EdTech หรือ Education Technology อันประกอบด้วยเทคโนโลยีแทบจะทุกแขนงที่วิวัฒน์ขึ้นใหม่… ถูกปรับใช้เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางการศึกษา ทั้งในบริบทการเรียนการสอน และ บริบทการบริหารจัดการ… และ บล็อกเชนก็เป็นหนึ่งใน “เทคโนโลยีจำเป็น” เพื่อยกระดับบริบทการจัดการทางการศึกษา ให้เชื่อมั่นได้ยิ่งกว่าเดิม ทั้งในมิติของข้อมูล และ ในบริบทเชิงธรรมาภิบาลในระบบ
การนำใช้บล็อกเชนเพื่อการศึกษา… ในเบื้องต้นถูกวิเคราะห์โมเดลเพื่อประยุกต์ใช้บล็อกเชนใน Official Education Records ในระบบการศึกษาทั้งหมด… โดยจะเรียกแนวทางนี้ว่า BER หรือ Blockchain Education Records หรือ Blockchain Based Education Records ซึ่งจะโฟกัสข้อมูลประวัติทางการศึกษาของบุคคลหรือนักเรียน เช่น คะแนนเก็บรายวิชา คะแนนสอบ คะแนนผลงาน เกรด เอกสารรับรองวุฒิการศึกษา และ อะไรอีกมากที่เคยเป็นเอกสารสำคัญทั้งเพื่อการศึกษาต่อ และ ใช้ประกอบการทำงาน
ผลงานตีพิมพ์จากการศึกษาวิจัยเรื่อง A Novel Blockchain-Based Education Records Verification Solution โดย Asst.Prof. Dr.Meng Han และคณะ จาก DIRLab ของ Kennesaw State University ในรัฐจอร์เจีย ซึ่งได้สรุปนัยยะสำคัญของเทคโนโลยีบล็อกเชนในกิจการทางการศึกษาไว้อย่างน่าสนใจ… โดยเฉพาะในประเด็นการใช้ Blockchain Technology เพื่อพัฒนาระบนิเวศ และ สภาพแวดล้อมทางการศึกษาที่บุคคลสามารถดูแลจัดการ Official Education Records ของตนได้ดีกว่าเดิม ซึ่งความโดดเด่นเรื่องการเข้ารหัสของบล็อกเชนถือเป็นทางออกที่สมบูรณ์แบบเรื่องความเป็นส่วนตัว หรือ Privacy… ในขณะที่การแชร์และแบ่งปันข้อมูลโดยเจ้าของสิทธิ์ข้อมูลกลับทำได้ง่ายดาย และ ทั้งหมดสามารถ Create / Read / Update / Delete หรือ CRUD ข้อมูล Official Education Records ทั้งหมดได้อย่างโปร่งใสไร้ศูนย์กลาง… ต่างจากการใช้ Custodian หรือ เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนมาเป็นผู้ดูแลเอกสารสำคัญ ซึ่งนอกจากจะเกิด Human Error ได้แล้ว… ข้อมูลในฐานข้อมูลธรรมดายังสามารถ CRUD ได้โดยง่ายและไร้ร่องรอยจนเป็นจุดอ่อนของการใช้เทคโนโลยีฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์
Susan Moore จาก Gartner ประจำสาขา Hobart บนเกาะ Tasmania ประเทศออสเตรเลีย ได้เผยแพร่บทความเรื่อง 4 Ways Blockchain Will Transform Higher Education เผยแพร่ไว้ตั้งแต่ปลายปี 2019 อ้างอิงการสำรวจ Gartner 2019 CIO Survey ซึ่งพบความพร้อมของสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาเพียง 2% ที่ปรับไปใช้บล็อกเชนแล้ว และ มีอีก 18% ที่วางแผนดำเนินการใน 24 เดือนข้างหน้า… ส่วนที่น่าสนใจที่สุดของการสำรวจนี้ก็คือ กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามว่า “ไม่สนใจบล็อกเชน” ซึ่งมีเหตุผลเพียงรอดูไปก่อนส่วนหนึ่ง และ มีกลุ่มตัวอย่างบอกว่าวิเคราะห์ความคุ้มทุนแล้วไม่จูงใจ รวมทั้งกลุ่มที่เชื่อว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่ก็ใช้ได้ดีอยู่แล้ว และยังมีกลุ่มที่ไม่รู้จัก หรือ ไม่เข้าใจประโยชน์ที่จะนำบล็อกเชนมาใช้
ประเด็นสำคัญก็คือ… การสัมภาษณ์เชิงลึก หรือ In-Depth Interviewing โดย Terri-Lynn Thayer รองประธานของ Gartner พบว่า… CIO หรือ Chief Information Officer ของสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่ ยังแคลงใจเรื่องศักยภาพของบล็อกเชน
ส่วน 4 แนวทางที่บล็อกเชนจะเข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมการศึกษา จากการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้ของ Susan Moore เสนอไว้ประกอบด้วย
1. Improve Record Keeping หรือ ปรับปรุงระเบียนทางการศึกษา
ถือเป็นกรณีการนำใช้ที่ได้รับการยอมรับ และ พบมากที่สุด ซึ่งสถาบันการศึกษาที่นำใช้ไปแล้ว จะโฟกัส Official Education Records โดยเฉพาะกลุ่มประกาศนียบัตร และ ปริญญาบัตร… รวมทั้งบันทึกเพื่อหวังผลการตรวจรับรอง และ ประกันคุณภาพสถาบันการศึกษาทุกมิติ รวมถึงทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา ลิขสิทธิ์ และ สิทธิบัตรด้วย
2. Increase Efficiency In Existing Business Processes หรือ เพิ่มประสิทธิภาพกับธุรกรรมเดิม
โดยกรณีการใช้บล็อกเชนทำ Verifiable Lifetime Transcript หรือ ทรานสคริปตลอดชีพ เพื่อป้องกันการปลอมวุฒิการศึกษา และ CV อ้างอิงสถาบัน ซึ่งทำลายชื่อเสียงของสถาบันการศึกษาอย่างมาก… ถือเป็นแนวทางสำคัญในการประยุกต์ใช้บล็อกเชน
3. Create A New Market For Digital Assets หรือ สร้างตลาดวิชาการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัล
หลักๆ เป็นกรณีการนำ Cryptocurrency อย่าง Bitcoin และ Digital Token มาใช้ในกลไกค่าธรรมเนียม ค่าเทอม และ การชำระราคา หรือ ใช้จ่ายแทนเงินสดในสถาบัน… กรณีของ King’s College ในนิวยอร์กซึ่งกลายเป็นสถาบันแรกในสหรัฐอเมริกาที่รับค่าเทอมเป็น Bitcoin ตั้งแต่ปี 2014 ถือเป็นกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
4. Create A Disruptive Business Model หรือ สร้างโมเดลธุรกิจเพื่อทำลายโมเดลดั้งเดิม
บล็อกเชนได้ชื่อว่าเป็นเทคโนโลยีแห่งความโปร่งใสเชิงข้อมูลสูงสุด ในขณะที่ธุรกิจของสถาบันการศึกษาโดยเนื้อแท้ก็คือ การรับรองความรู้ความสามารถของผู้เรียน ที่ผ่านการฝึกฝนคัดกรองโดยสถาบัน… การนำบล็อกเชนมาใช้ในการรับรองความรู้ความสามารถบุคคล จึงสามารถปรับโมเดลธุรกรรมทางการศึกษาให้พ้นจาก Brick And Mortar Institution ซึ่งใช้งบประมาณไปกับอาคารสถานที่และโต๊ะเก้าอี้ กับ พลังงานไฟฟ้ามากมายได้อย่างดี… กรณีของ Woolf University ซึ่งมุ่งมั่นที่จะเป็นมหาวิทยาลัยไร้พรมแดนแห่งแรก ที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชน ก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มนักวิชาการจากทั้ง University Of Oxford และ University of Cambridge โดยใช้ Blockchain/Smart Contract เป็นพื้นฐานจัดการความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียน กับ นักการศึกษา และ สถาบันการศึกษา และ กลไกการรับรองความรู้ความสามารถของผู้เรียน ภายใต้แนวคิดการสร้าง AirBNB of Degree Courses
ท่านที่สนใจ Blockchain Education Records และ Blockchain Based Institution รวมทั้ง Blockchain Driven Education ทุกโมเดล… ทั้งระดับศึกษาความเป็นไปได้ และ โมเดลต้นแบบ… ทักผมทาง Line ID: dr.thum ครับ
References…
One reply on “Blockchain Driven Education #ReDucation”
[…] 2021 จนถึงบทความเรื่อง Blockchain Driven Education ช่วงต้นไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 […]