ในต่างประเทศ… สังคมไร้เงินสด หรือ Cashless Society เกิดขึ้นและเติบโตมานานนับสิบปีเข้าให้แล้ว โดยเฉพาะจีนแผ่นดินใหญ่ ที่สามารถก้าวข้ามความล้าหลังของระบบการเงินการธนาคารไปสู่ ePayment โดยไม่เสียเวลาลองแวะใช้ระบบธนาคารแบบคลาสสิค หรือแม้แต่บัตรเดบิตเครดิตกันให้เสียเวลา
แต่ทั่วโลกยกให้สวีเดนเป็นประเทศที่เข้าสู่ Cashless Society แบบ 100% ได้ก่อนใครและสมบูรณ์แบบที่สุด… ส่วนประเทศไทยก็ไม่ได้น้อยหน้า ระบบ ePayment ก็มีเกิดขึ้นมานานแล้วและได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากแคมเปญเป๋าตุงเป๋าตังค์ ซึ่งรัฐบาลได้โอกาสอัดฉีดเม็ดเงินหลายรูปแบบในช่วงที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชนในช่วงวิกฤตโควิดพอดี… ทำให้ประชาชนไทยแห่แหนเข้าสู่ระบบ ePayment ด้วยความเต็มใจ ต่อยอดจำนวนคนในประเทศที่ใช้ Mobile Banking ทำธุรกรรมซื้อขายจ่ายโอนกันมานับสิบปีแล้วเช่นกัน
ส่วนที่ดีที่สุดของระบบ ePayment ของไทยคือ ระบบนิเวศน์ภายใต้ชื่อ National e-Payment ซึ่งพวกเราคนไทยส่วนใหญ่รู้จักและได้ใช้บริการในนาม PromptPay หรือพร้อมเพย์อย่างเท่าเทียมอยู่แล้วนั่นเอง
ประเด็นเป็นแบบนี้ครับ… ธุรกิจที่เคยค้าขายเงินสดอยู่เดิมนับจากนี้ จะมีธนบัตรและเหรียญให้ใช้น้อยลงเรื่อยๆ ในขณะที่ระบบ QR Payment ที่ยังทุลักทุเลเช่นกรณี จ่ายคิวอาร์ถ่ายหน้าจอ จากร้านค้าที่ใช้พนักงานขายและต้องเก็บสำเนาไว้ส่งยอด แถมตัวเลขในระบบบัญชียังอยู่นอกระบบ POS แบบอัตโนมัติของร้านถึงขั้นต้องกลับมานั่งทำนับยอดปรับบัญชีย้อนยุคซับซ้อนกว่ารับเงินสดก็มี… คำแนะนำจากผมจึงมีว่า ท่านที่ทำธุรกิจและไม่มีปัญหาเรื่องงบประมาณในปีนี้ เตรียมตัวอัพเกรดระบบ POS ที่รองรับ PromtPay ได้แล้วครับ รับรองว่าชีวิตง่ายขึ้นเยอะ
ความเห็นส่วนตัวที่อยากจะฝากถึงคนค้าขายอีกประเด็นก็คือ ท่านที่เป็นรายเล็กและรายย่อยที่ค้าขายเงินสดอยู่เดิม ผมอยากแนะนำให้ใส่ใจระบบบัญชีและการเงินที่เป็นระบบ โดยเฉพาะการค้าขายที่สามารถบันทึกรายการเดินบัญชีได้ชัดเจนและโปร่งใส… ตรงๆ ก็คืออยากให้ใช้ PromptPay รับเงินนี่แหละครับ ซึ่งจะส่งผลให้ท่านสามารถเข้าถึงกลไกเงินทุน ที่ธนาคารและแหล่งทุนถูกกฏหมาย ตั้งแต่สถาบันการเงินใหญ่ไปจนถึงนาโนไฟแนนซ์จะได้ใช้ข้อมูลรายการเดินบัญชีของท่าน ไปผูกติดกับระบบสินเชื่อออนไลน์ ซึ่งท่านสามารถตัดสินใจไม่ใช้ก็ได้ หรือจะใช้เพื่อขยับขยายโอกาสในการค้าขายทำมาหากินก็ทำได้ง่ายขึ้น… และอย่าเพิ่งไปกลัวเรื่องต้องยื่นและเสียภาษีล่วงหน้าจนเสียโอกาส ซึ่งผมมองว่าถ้าค้าขายของท่าน ไปไกลถึงขั้นได้เสียภาษีเป็นกอบเป็นกำ อะไรๆ ที่ทำอยู่ก็ไม่น่าจะขี้เหร่นักหรอก
ปี 2021 เป็นปีที่เราท่านจะได้เห็นกระแสการปล่อยกู้ทางดิจิทัลในระบบการเงินการธนาคารของไทยอย่างชัดเจนที่สุด… และผมแนะนำมิตรสหายที่เป็น SMEs รายเล็กรายน้อยที่ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกันอยู่ ให้สมัครและเปิดระบบสินเชื่อดิจิทัลเอาไว้ตั้งแต่ที่ยังไม่มีปัญหาต้องใช้สินเชื่อไปเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะท่านที่เดินบัญชีผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ กสิกรไทยและกรุงศรีอยุธยา… ที่ลุยสินเชื่อออนไลน์กันเป็นล่ำเป็นสันมาตั้งแต่ปลายปีอย่างคึกคัก… ท่านลอง Google คำว่า “สินเชื่อออนไลน์” ดูก็ได้ครับว่ากระแสแรงแค่ไหน!
