ท่ามกลางสถานการณ์รอบด้านที่เกิด VUCA หรือ Volatility Uncertainty Complexity and Ambiguity หรือ ผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และ คลุมเครือ ซึ่งกระทบชีวิตประจำวัน และ อาชีพการงานของทุกคนจากสถานการณ์เก่าที่เคยมีประสบการณ์ กับ สถานการณ์ล่าสุดที่ต่างไปจากเดิม โดยจะมีบางสถานการณ์ล่าสุดที่ทำให้บางคน หรือ หลายๆ คนยุ่งยากลำบากกว่าเดิมโดยไร้หนทางหลีกเลี่ยงแบบที่เรียกได้เต็มปากเต็มคำว่า “เกิดปัญหาขึ้น” กับตน… ซึ่งก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถข้ามผ่าน และ รับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นล่าสุดได้ดีเหมือนเดิม… แต่ก็มีบางคนที่ “ยังไหว และ ไปต่อ” โดยแก้ไขข้ามผ่านสถานการณ์ล่าสุดที่ก่อปัญหาให้ โดยทั้งหมดที่ทำได้ หรือ ที่แก้ปัญหาได้ก็มักจะเป็นกลุ่มคนที่กล้าปรับเปลี่ยน และ ผ่อนสั้นผ่อนยาวกับสถานการณ์ที่ก่อปัญหาให้… ซึ่งคนกลุ่มนี้จะมีความยืดหยุ่นสูงในการรับมือกับสถานการณ์ล่าสุดที่ต่างไปจากเดิมในแบบที่เรียกว่า… ความยืดหยุ่นทางปัญญา หรือ Cognitive Flexibility
ความยืดหยุ่นทางปัญญา หรือ Cognitive Flexibility ได้รับการอธิบายว่าเป็นความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดเทียบเคียงสถานการณ์เก่ากับสถานการณ์ใหม่ ที่มาพร้อมความสามารถในการเอาชนะการตอบสนองโดยสัญชาตญาณ และ อุปนิสัยตามความเคยชินจนสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ได้โดยไม่ขัดแย้งจนกลายเป็นปัญหาใหม่ตามมา และ ในคำอธิบายทางจิตวิทยาจะพูดถึงคนที่มีความยืดหยุ่นทางปัญญาว่าเป็นคนที่มี “เนื้อแท้ตัวตน หรือ Intrinsic Property” อันเป็นความสามารถทางจิตใจที่สร้างการรับรู้ต่อสาระหลักในกฏเกณฑ์ของสถานการณ์ใหม่ที่แตกต่าง โดยสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อตอบรับสถานการณ์ใหม่ได้อย่างดี
ความยืดหยุ่นทางปัญญาถือเป็นอัตลักษณ์บุคคลที่สะท้อนผ่านพฤติกรรมของคนๆ นั้นภายใต้เงื่อนไขแวดล้อมทั้งที่สัมพันธ์กับพัฒนาการของชีวิตที่ถูกชุบเลี้ยงส่งเสริมตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบันของคนๆ นั้น รวมทั้งจิตสังคม และ ภาวะสุขภาพจิตของคนๆ นั้นด้วย… โดยความยืดหยุ่นทางปัญญาจะเปลี่ยนไปตามวัย และ ประสบการณ์ใหม่ที่เกิดขึ้นกับชีวิต
ประเด็นก็คือ… ความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดจากสถานการณ์เก่าเป็นสถานการณ์ใหม่ถือเป็นแก่นของ Soft Skills ซึ่งเป็นทักษะความสัมพันธ์ที่คนๆ หนึ่งมีกับตัวเองและผู้อื่น โดยเชื่อมโยงถึงสุขภาพใจและกายของคนๆ นั้นอย่างมีนัยยะสำคัญ… ปัญหาสุขภาพจิตในหลายแง่มุมจึงมีสาเหตุมาจากความสามารถในการปรับเปลี่ยนความคิดซึ่งเป็นผลโดยตรงของความยืดหยุ่นทางปัญญา หรือ Cognitive Flexibility ในตัว
Dr.Laura K. Schenck นักจิตวิทยาบำบัด และ ผู้ก่อตั้ง Mindfulness Muse ชี้ว่า… เมื่อคนเรามีความอ่อนไหวในจิตใจที่เกิดจากค่านิยมเดิม และหรือ พฤติกรรมเก่าขัดแย้งกับสถานการณ์ใหม่ที่ผลักดันให้ตัวเราต้องปรับเปลี่ยน ซึ่งจะเกิดภาวะยุ่งยากใจจากการพยายามยอมรับข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไป จนขัดแย้งกับค่านิยม กับ ความเชื่อเดิมที่เคยชิน โดยปัจจัยที่ทำให้คนเราปรับเปลี่ยนได้น้อย หรือ ไม่ได้เลยจนเกิดปัญหาจะมาจาก…
- Dominance of the Conceptualized Past or Future หรือ แนวคิดครอบงำจากอดีต หรือ อนาคต… ที่คนๆ หนึ่ง “ติดอยู่” กับความรู้สึก ความเชื่อ หรือ ประสบการณ์ที่ทำให้เปลี่ยนแปลงได้ยาก ทั้งที่เป็นประสบการณ์ในอดีต และ ความเพ้อฝันที่ยังมาไม่ถึง
- Cognitive Fusion หรือ การตกผลึกทางปัญญา… โดยคนๆ หนึ่งจะ “ติดอยู่” กับข้อสรุปสำคัญที่กลายเป็นความเชื่อที่กล้าเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นกว่านั้นไม่ได้ ถึงแม้ข้อเท็จจริงต่อหน้าจะขัดแย้งกับความเชื่อฝังหัวอย่างชัดเจนจนไร้ข้อโต้แย้งก็ตาม
- Experiential Avoidance หรือ การหลบเลี่ยงประสบการณ์… โดยคนๆ หนึ่งจะ “หลบเลี่ยงการยอมรับ” ประสบการณ์ใหม่จากเหตุการณ์ใหม่ที่สร้างความวิตกกังวล หรือ ความไม่สบายใจ หรือ ไปกระตุ้นความเจ็บปวด หรือ ประสบการณ์เลวร้ายในอดีต
- Attachment to the Conceptualized Self หรือ แนวคิดที่ติดมากับตัวตน… โดยคนๆ หนึ่งจะผูกความเชื่อเกี่ยวกับตัวตนว่าเป็นใคร มาจากไหน และ ตนสำคัญอย่างไรไว้ด้วยความเชื่อมั่นเดียว ซึ่งสถานการณ์ใหม่ที่กระทบถึงตัวตนที่ยึดมั่นถือมั่นเข้มข้น ก็มักจะเป็นปัญหาใหญ่ต่อการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้สอดคล้องกับอะไรใหม่ๆ ที่ต่างไปจากเดิม
- Lack of Values หรือ บกพร่องเชิงคุณค่า… โดยคนๆ หนึ่งได้เพียรบอกตัวเองว่าสิ่งที่เกิดขึ้น และ เป็นอยู่มันไม่ถูก ไม่ใช่ และ ไม่ควรที่จะเกิดกับตน ดังเช่นที่หลายๆ คนขมขื่นกับงาน หรือ ครอบครัวทั้งๆ ที่สามารถปรับตัวปรับใจ หรือ สร้างการเปลี่ยนแปลงเพื่อออกจากการเป็นคนผู้กำลังใช้กรรมแบบนั้นได้หลายวิธี
- Unworkable Action หรือ ทำเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้… โดยคนๆ นั้นจะดื้อรั้นดันทุลังทำตามความคิดความเชื่อที่มันไม่เวิร์ค ซึ่งความพยายามหลายๆ ครั้งไม่ชี้ชัดว่ามีอะไรให้เรียนรู้ใหม่ หรือ เกิดการเปลี่ยนผ่านจากมีเป็นไม่มี หรือ รู้น้อยเป็นรู้มากขึ้นกว่าเดิม… ซึ่งการเป็นคนดันทุรังในเรื่องที่ไม่ฉลาดก็เป็นอีกหนึ่งสถานการณ์ “ติดอยู่” กับอะไรที่มันไม่เวิร์ค
ประเด็นเป็นแบบนี้คือ… การเป็นคนยืดหยุ่นมีโอกาสจะมีความสุขมากกว่าการเป็นคน “ติดอยู่” กับตัวเองเวอร์ชั่นเดียว ซึ่งเทียบได้กับคนขี้เหนียวใจแคบผู้กลัวแต่คนอื่นจะฉกฉวยเอาเปรียบ โดยไม่สนใจโอกาสแบบที่คนใจกว้างได้ความเอื้อเฟื้อแบ่งปันจากผู้อื่น และ ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ… การเป็นคนเปิดกว้างต่อสถานการณ์ภายนอก และ สามารถรับมือด้วยความยืดหยุ่นทางปัญญา หรือ Cognitive Flexibility หรือ มีปัญญาพอที่จะผ่อนสั้นผ่อนยาว โดยเติบโตและพัฒนามากับประสบการณ์ชีวิตจนกลายเป็นทักษะการรับมือกับภาวะผันผวนไม่แน่นอนซับซ้อนคลุมเครือที่เกิดขึ้นรอบตัวได้ดี… คนๆ นั้นก็จะมีทักษะการจัดการปัญหาได้โดยแทบจะไร้ข้อจำกัด… แต่ก็ต้องกำจัดปัจจัยที่ทำให้คนเราปรับเปลี่ยนได้น้อยให้หมดไปให้ได้
References…