สงครามนิวเคลียร์… ความกังวลที่โลกยังคงต้องกังวล เมื่อประเทศมหาอำนาจในโลก ยังครอบครองอาวุธนิวเคลียร์และมีไว้เพื่อใช้งานจริงๆ หากจำเป็น… และข้อเท็จจริงที่ว่า ใต้ท้องทะเลลึกมีเรือดำน้ำขนอาวุธนิวเคลียร์ของชาติมหาอำนาจ ลอยไปลอยมาเพื่อหลบหลีกการถ่ายภาพจากดาวเทียมมากมาย… และการบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์เคลื่นย้ายไปนั่นมานี่ของชาติมหาอำนาจ ก็ทำเพื่อให้แน่ใจว่า หากเกิดเรื่องฉุกเฉินโป้งป้างขึ้นมา ก็จะได้ตอบโต้หรือเล่นงานคู่ปรับได้ทันท่วงที
ในยุคสงครามเย็นที่ขั้วมหาอำนาจนิวเคลียร์สองฝ่ายคือรัสเซียกับสหรัฐ ขัดแย้งคุกคามกันชัดเจนนับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองเรื่อยมา… เรื่องเล่าความขัดแย้งทั้งเรื่องจริงและนิยายแต่ง ล้วนมีแง่มุมความน่ากังวลของสงครามล้างโลก ที่พลังการทำลายล้างจะมาจากอาวุธนิวเคลียร์ที่คู่ขัดแย้งพร้อมจะเปิดฉากถล่มใส่กันภายในไม่กี่นาที
หนังเรือดำน้ำในตำนานอย่าง Crimson Tide ซึ่งเข้าฉายในเมืองไทยด้วยชื่อลึกทมิฬ… ก็เล่าเรื่องผ่านเหตุการณ์น่ากังวลใจของเรือดำน้ำนิวเคลียร์ อำนาจการทำลายล้างและโอกาสเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่ทุกคนรู้จุดจบกันดีว่า… ถ้าเกิดก็เละด้วยนิวเคลียร์กันทั้งโลก
ปมเรื่อง Crimson Tide เริ่มต้นขึ้นจากเหตุจราจลในรัสเซีย โดยหัวหน้าฝ่ายกบฏซึ่งปลุกระดมด้วยการกล่าวหาสหรัฐว่าแทรกแทรงกิจการภายในรัสเซีย ด้วยการช่วยเหลือรัสเซีย เข่นฆ่าปราบปรามประชาชนของตนเอง การปลุกระดมก่อเหตุวุ่นวายไปทั่วรัสเซีย ฝ่ายกบฏรุกคืบเข้ายึดฐานยิงขีปนาวุธพิสัยไกลของฝ่ายรัสเซีย และประกาศถล่มสหรัฐด้วยอาวุธนิวเคลียร์โดยเร็วที่สุด… ฝ่ายสหรัฐอเมริกาซึ่งระแวงภัยคุกคามแบบนี้อยู่แล้ว จึงปล่อยเรือดำน้ำนิวเคลียร์ออกเดินทางเข้าจุดยุทธศาสตร์ เตรียมรับเหตุการณ์ระดับวิกฤตนิวเคลียร์ที่อาจจะเกิดนาทีใดก็ได้… และเรือดำน้ำชั้น Ohio Class ชื่อ USS Alabama ก็ถูกเรียกประจำการในภาวะฉุกเฉินทางทหารครั้งนี้
ผู้บังคับการเรือ Uss Alabama ชื่อ Frank Ramsey… เป็นนายทหารเรือระดับผู้บังคับการเรือไม่กี่คนที่เหลืออยู่ และเคยมีประสบการณ์ในสงครามมาก่อน ซึ่ง Frank Ramsey บัญชาการเรือ Uss Alabama มานานจนรู้จักผู้ใต้บังคับบัญชาและลูกเรือทุกคน… ยกเว้นต้นเรือ หรือรองผู้บัญชาการคนใหม่ชื่อ Ron Hunter ที่ถูกเรียกตัวทดแทนต้นเรือคนเก่าที่ไส้ติ่งอักเสบ
รายงานในห้องประชุมยุทธการยืนยันว่า ฝ่ายกบฏในรัสเซียมีกำลังทหารที่แปรพักตร์พร้อมอาวุธร้ายแรงจำนวนหนึ่ง และเข้ายึดฐานบัญชาการเรือดำน้ำนิวเคลียร์ ใกล้แนวชายแดนเกาหลีเหนือได้แล้วด้วย… เหตุผลเดียวที่ขีปนาวุธยังไม่ถูกปล่อยออกมาก็คือ กบฏในรัสเซียไม่มีรหัสปล่อยอาวุธและกำลังถอดรหัสอยู่… และเรือ USS Alabama ได้รับคำสั่งให้ออกเรือเวลาศูนย์หกศูนย์ๆ ภายใต้สถานการณ์พร้อมรบ
พล๊อตของเนื้อเรื่องสร้างความขัดแย้งซับซ้อนระหว่างคนสองฝ่ายในรัสเซีย ลุกลามเป็นความขัดแย้งข้ามชาติรัสเซีย–สหรัฐ จนเข้าขั้นวิกฤต… แต่ความขัดแย้งกันเองในสายการบังคับบัญชาระหว่างผู้บัญชาการเรือ USS Alabama กับต้นเรือคนใหม่ ในภาวะหูหนวกตาบอดอยู่ใต้ทะเลลึก พร้อมความเครียดล้นปัญญาและความกลัวปริ่มล้นจิตใจ… ของทุกคนในเรือ ดูเหมือนจะน่ากลัวยิ่งกว่าความขัดแย้งใดๆ ในสถานการณ์ตึงเครียดนี้
ในหนังมีฉากการดวลตอปิโดของเรือดำน้ำซึ่งเป็นสาเหตุให้การสื่อสารของเรือ USS Alabama ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยมีคำสั่งยิงขีปนาวุธครึ่งเดียวที่กัปตัน Frank Ramsey ผู้บัญชาการเรือตัดสินใจสั่งยิงโดยไม่รีรอตามสไตล์ผู้นำทางทหารสายเหยี่ยวที่นิยมยิงก่อนถามชื่อทีหลัง… แต่ต้นเรือผู้สุขุมอย่าง Ron Hunter ไม่ให้ความร่วมมือ แถมยังใช้ข้อบังคับควบคุมตัวผู้บังคับการเรือและเข้าบัญชาการเรือ USS Alabama ท่ามกลางความไม่พอใจของนายทหารฝ่ายส่วนใหญ่ในเรือ ซึ่งยอมรับนับถือและจงรักภัคดีกับนายเก่าอย่างกัปตัน Frank Ramsey
วิกฤตผู้นำที่มาพร้อมความขัดแย้งจึงเกิดซ้ำขึ้นอีก เมื่อนายทหารฝ่ายก่อกบฏและเชิญกัปตัน Frank Ramsey กลับเข้าบัญชาการรบบนเรือ USS Alabama อีกครั้ง และกัปตัน Frank Ramsey ยังคงดึงดันจะปล่อยขีปนาวุธให้ได้ ท่ามกลางการชิงไหวชิงพริบ เพื่อรวบรัดกลไกการสั่งยิงขีปนาวุธ แม้จะต้องเอาปืนพกจ่อหัวผู้ใต้บังคับบัญชาที่ขัดขืนอย่าง “ต้นปืน” ที่ไม่ยอมให้รหัสเตรียมหัวรบง่ายๆ
หนังเรื่องนี้เปิดให้เห็นมิติของความขัดแย้งหลายรูปแบบ… เปิดให้เห็นภาวะผู้นำทั้งแบบห้าวหาญฮึกเหิม แต่ตัดสินใจด้วยความกลัว… และเปิดให้เห็นภาวะผู้นำแบบตัดสินใจตามข้อมูล และเสียสละอย่างกล้าหาญ เพื่อหาทางตรวจสอบข้อมูลและปกป้องความเสียหายขนาดใหญ่ทุกทาง… และในหนัง ยังจิกกัดคำกล่าวอ้างสากลที่ใช้อำพรางการกระทำที่สร้างความเสียหายในวงกว้างอย่างคำว่า… We’re here to preserve democracy. หรือ เรามาที่นี่เพื่อปกป้องประชาธิปไตย… ทั้งๆ ที่การตัดสินใจและการใช้อำนาจล้วนทำโดยแนวทางเผด็จการทหารสุดลิ่มทีเดียว
Crimson Tide เป็นหนังทหารและหนังสงครามที่มีฉากสงครามน้อยนิด แต่ความสนุกระดับเร้าใจตลอดเรื่องเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ความขัดแย้งของ Frank Ramsey กับ Ron Hunter เป็นส่วนใหญ่ การได้ดารานำชั้นยอดอย่าง Denzel Washington มารับบท Ron Hunter และ ได้ Gene Hackman มารับบท กัปตัน Frank Ramsey… เฉือดเฉือนกันภายใต้การกำกับของ Tony Scott… ทำให้หนังออกมาน่าติดตามอย่างยิ่งแม้ว่าจะดูซ้ำมาแล้วหลายรอบ
โดยส่วนตัวผมดูหนังเรื่องนี้หลายรอบนับไม่ไหว เพราะเป็นหนึ่งในหนัง Soundtrack ปิด Subtitle เพื่อฝึกภาษาอังกฤษของผม ถึงขั้นลงทุนซื้อแผ่น DVD แท้และเครื่องเล่นซึ่งราคาแพงไม่ธรรมดาในยุค 90… ส่วนที่ผมชอบที่สุดในหนัง Crimson Tide คือ การโชว์ภาวะผู้นำและการตัดสินใจในภาวะวิกฤต… และฉากที่ชอบที่สุดในหนัง Crimson Tide คือ ฉากที่ Ron Hunter ขอให้ลูกเรือคนหนึ่งเก็บกุญแจสำคัญแทนเขา ระหว่างถูกปฏิวัติซ้อน และ Ron Hunter ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องของสก๊อตตี้และกัปตันเคิร์ก แห่งยานเอนเตอร์ไพรซ์ในซีรีย์ StarTrek… มอบหมายหน้าที่แทน “คำสั่ง” ซึ่งผู้รับคำสั่งอาจจะอ้างเพื่อทำตามคำสั่งที่ใหญ่กว่าทีหลังได้… แต่การโน้มน้าวให้ลูกเรือรับผิดชอบ “ของสำคัญ” ให้เข้าใจอย่างรวดเร็ว และ “เชื่อใจมั่นใจ” กับคนที่ยื่นมือมารับผิดชอบของสำคัญนั้น
ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านเคยดูหนังเรื่องนี้มาแล้ว… แต่อยากให้ท่านกลับไปดูอีกครั้ง ในมุมมองผู้นำและนักบริหาร… ดูการตัดสินใจของผู้นำระดับสูง หรือ Top Management… ดูการตัดสินใจบนความขัดแย้งในทีมของผู้นำระดับกลาง หรือ Middle Management… ดูความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นแม้คิดไม่เหมือนกันเลย… ดูการโต้ตอบจากความกลัวที่คนกลัวเชื่อว่าตัดสินใจและกระทำด้วยความกล้า… ดูความกล้าที่ปกป้องหายนะใหญ่หลวงแม้ต้องแลกด้วยชีวิต
Crimson Tide กำกับการแสดงโดย Tony Scott… อำนวยการสร้างโดย Don Simpson และ Jerry Bruckheimer ออกฉายกลางเดือนพฤษภาคม ปี 1995… ทุนสร้าง 53 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำรายได้ 157.4 ดอลลาร์สหรัฐ…
Crimson Tide ครับ!
อ้างอิง