Dalio’s 5 Step Process for VESPA Mindset

ความสำเร็จกับความล้มเหลว… หลายกรณีเหมือนเม็ดกรวดในเหมืองเพชรที่คนเหมืองรู้ดีว่า ยิ่งขุดเจอกรวดเยอะเท่าไหร่ โอกาสเจอเพชรจะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น… ความสำเร็จกับความล้มเหลวจากการเรียนก็เช่นกัน ความล้มเหลวกับความสำเร็จจะปนๆ กันอยู่ ซึ่งความไม่รู้ก็ดี ความผิดพลาดสารพัดที่ทำให้การเรียนไม่บรรลุวัตถุประสงค์ก็ดี จะปนๆ อยู่กับความปลาบปลื้มตื้นตันที่ผลการเรียนออกมายอดเยี่ยม จนสามารถนำไปต่อยอดที่เป็นประโยชน์ได้อีกมาก

เหตุผลข้อเดียวที่คนเราต้องเรียนก็คือ เราไม่รู้… ทั้งไม่รู้เพราะเพิ่งเกิดมาบนโลกไม่นาน และไม่รู้เพราะอยู่มานานแต่ยังไม่รู้… การผิดพลาดบกพร่องระหว่างเรียนจึงควรได้รับการใส่ใจและประคับประคองจากระบบการศึกษาเพื่อปกป้อง “ความไม่รู้” ให้ถูกแก้ไขอย่างเหมาะสม ซึ่งแนวคิดการใช้ VESPA Mindset ได้ระบุช่วงเวลาที่จะเกิด “ความล้มเหลวโดยปริยาย” เอาไว้ให้ใส่ใจค่อนข้างชัดเจน โดยอ้างอิงแนวคิด The Dip ของ Seth Godin ที่อธิบายไว้ว่า… ไม่ว่าเราจะทำอะไรใหม่ก็แล้วแต่ แรกๆ จะสนุกและตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่ แต่พอเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ซึ่งเจ้าตัวจะผ่านประสบการณ์ที่สนุกตื่นเต้นไปหมดแล้ว แถมยังได้เรียนรู้และประเมินตัวเองพอที่จะตัดสินใจได้ว่า… จะพยายามต่อไป หรือ เลิกล้มดี… คนส่วนใหญ่เลิกล้มและถอดความเพียรพยายามออกจากเป้าหมายนั้น ซึ่งเกิดจากความไม่รู้สะสมซับซ้อน… ไม่ต่างจากคนทำเหมืองเพชรที่รู้ว่าใต้ก้อนกรวดยังมีหินเลอค่าปนอยู่ แต่เมื่อขุดไปเจอแต่กรวดกับดินไร้ค่าก็ถอดใจ… เหมือนหลายคนเลิกเรียนเพราะอยากไปทำงานเอาตังค์ก่อน แต่พอบั้นปลายกลับเสียดายโอกาสที่ไม่ได้เรียน… หรือแม้กระทั่งการลงทุนที่น้อยเกินกว่าจะเห็นผลตอบแทนก็ถอดใจก่อน… ความสำเร็จที่วาดไว้ตอนต้นจึงหายไปทันทีที่เลิกลา

ในหนังสือ The Student Mindset: A 30-Item Toolkit For Anyone Learning Anything ของ Steve Oakes และ Martin Griffin ได้หาแนวทางปกป้องผู้เรียนในระหว่างอยู่ในภาวะ Dip ที่ความตื่นเต้นเชื่อมั่นภาคภูมิตอนต้น ถูกกดดันให้ตกต่ำจนใกล้จุดที่จะตัดสินใจล้มเลิกหรือพยายามต่อ… โดยแนวทางแรกที่ Steve Oakes และ Martin Griffin เลือกใช้ก็คือ Dalio’s 5 Step Process จากหนังสือ Principles… หนึ่งในหนังสือ How to 30 เล่มหลัก ซึ่งนักบริหารที่ประสบความสำเร็จต่างเคยอ่านและแนะนำทั้งสิ้น

สิ่งที่คนอ่าน Principles ของ Ray Dalio สรุปไว้ใกล้เคียงกันเมื่ออ่านจบก็คือ Dalio’s 5 Step Process หรือ หลักการ 5 ขั้นตอนของดาลิโอ จะทำให้คนใช้เป็นได้แผนที่นำทางชีวิตที่ชัดเจนและเป็นปัจจุบัน ไม่ใช่ลายแทงยุคสงครามโลกที่ได้มาเพราะมีคนทรงเจ้านิมิตรเจอ… ไปดูพร้อมกันเลยครับว่ามีอะไรบ้าง

1. Goals หรือ เป้าหมาย

คำน่าเบื่ออย่างเป้าหมายเป็นเรื่องแรกที่ต้องแนะนำให้กำหนดและเลือกอย่างดี… แต่ต้องระวังจะสับสนระหว่าง เป้าหมาย กับ ความอยาก… เพราะหลายครั้งที่เราคิดว่าความอยากฉาบฉวยเป็นเป้าหมายใหญ่ ซึ่งต้องเน้นคำว่าเป้าหมายใหญ่ ที่หมายถึงหมุดหมายในภายหน้า ที่ชีวิตคนๆ หนึ่งจะไปให้ถึงตรงนั้น… จะเป็นหมอ เป็นนักบัญชีหรือนักการตลาด… หรืออยากมีบ้าน อยากได้รถ อยากไปเที่ยวเมืองนอก ซึ่งเป้าหมายใหญ่อย่างการเรียนเพื่อทำอาชีพที่รักและทำให้ได้ดี จะเป็นเป้าหมายหลัก ที่สามารถนำความสำเร็จของเป้าหมายหลัก มาสนองความอยากซึ่งเล็กกว่ามากได้ทั้งหมด… 

2. Problems หรือ ปัญหา

โดยทั่วไปแล้ว… เราในปัจจุบันกับเป้าหมายที่ชัดเจนในอนาคต จะถูกกั้นด้วยปัญหามากมาย จนทำให้เป้าหมาย ยังเป็นเป้าหมายที่รอให้กลายเป็นความสำเร็จอยู่อีกไกล ข่าวดีก็คือ คนส่วนใหญ่ระบุปัญหาที่ขวางอยู่ได้หมด แต่… บางส่วนสับสนระหว่าง สาเหตุของปัญหา กับ ตัวปัญหาหรือผลกระทบจากปัญหา… กรณีไม่มีตังค์ใช้ ซึ่งเป็นปัญหาและผลกระทบจากการไม่มีรายได้ หรือมีรายได้ไม่มากพอกับรายจ่ายซึ่งเป็นสาเหตุ… การกู้เงินมาให้มีใช้ จึงเป็นหนี้เพิ่มขึ้นและสาเหตุของปัญหาไม่ถูกแก้… ซึ่งต้องย้อนกลับไปแก้ที่รายได้แทนที่จะแก้ที่ไม่มีตังค์ใช้

3. Diagnosis หรือ วินิจฉัยปัญหา

ปัญหาที่คาชีวิตหรือเส้นทางเป้าหมายทุกอย่าง… ย่อมไม่ใช่ปัญหาที่เข้าใจง่ายหรือแก้ง่ายสำหรับคนที่ติดขัดจมจ่อมกับปัญหาและอุปสรรค์แน่ๆ เพราะถ้าแก้ไขได้ง่ายก็น่าจะแก้ได้ไปแล้ว… การวิเคราะห์ปัญหาทั่วไปเพื่อเข้าใจจึงเป็นการดูเบาต่อปัญหาเกินไป ทำให้หลายคนติดอยู่กับปัญหา และมักจะอธิบาย “ความขัดสนในการแก้ปัญหา” เป็นเรื่องที่ตนเองตัดสินใจอะไรไม่ได้ หรือ อยู่นอกเหนือการควบคุม… กรณีไม่มีตังค์ใช้เพราะรายได้ไม่พอ คนๆ นั้นจะเข้าใจว่าตัวเองไม่มีเงินลงทุน ไม่มีทักษะอาชีพที่สอง นายจ้างใช้งานหนักจนไม่มีเวลาทำอาชีพเสริม เปลี่ยนงานก็ไม่มีใครรับอีกแล้วเพราะอายุมาก และเหตุผลอีกร้อยแปดที่ต้องจมกับปัญหานั้นต่อไป… โดยลืมไปว่า ทั้งหมดที่ไล่เรียงมานั้น เป็นข้อวินิจฉัยว่า ไม่ได้มีคุณสมบัติที่จะเป็นคนมีเงินใช้เลยสักข้อเดียวในชีวิต

สูตรการวินิจฉัยที่แนะนำก็คือ ให้สาวกลับไปหาต้นตอของปัญหาด้วยการ “ถามทำไม หรือ Why” ต่อเนื่องไปอย่างน้อย 5 ชั้น แบบที่เรียกว่า Chain Why Technique ซึ่งเป็นแนวทางการคิดวิเคราะห์ หรือ Critical Thinking แนวทางหนึ่ง

4. Design หรือ ออกแบบ

เมื่อสามารถวินิจฉัยปัญหาได้ ที่หมายถึงรู้สาเหตุและหาทางแก้ได้แล้ว ก็ต้องมานั่งวางแผนว่าจะจัดการให้ปัญหาถูกแก้ไขด้วยขั้นตอนอย่างไรได้บ้าง… คำแนะนำของ Ray Dalio ผู้เขียนหนังสือ Principles และหนึ่งในบุคคลที่มีทรัพย์สินติดอันดับ 100 มหาเศรษฐีโลก แนะนำให้เรียนรู้จากอดีต… โดยมองกลับไปข้างหลัง เพื่อเรียนรู้จากความผิดพลาด แล้วจึงวางแผนไปข้างหน้า… ซึ่งการตัดความพลั้งพลาดออกไปจากเส้นทางสู่เป้าหมาย โดยไม่ให้เกิดผิดพลาดซ้ำอีกเหมือนในอดีต โดยทั่วไปย่อมปิดโอกาสล้มเหลวลงได้มาก… และการออกแบบที่ดีจะชัดเจน ไม่คลุมเครือหรือต้องไปลุ้นต่อเอาข้างหน้าระหว่างทาง

5. Do It… ทำซ่ะ

แผนดีต้องกล้าทำ แผนเด็ดต้องกล้าลงทุน… ถ้ายังไม่กล้าทำแสดงว่าแผนยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ ก็ต้องกลับไปออกแบบแผนใหม่ให้มีประสิทธิภาพ…

ทั้งหมด 5 ขั้นประมาณนี้… อย่างคร่าวๆ ครับ… ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยในแง่มุมต่างๆ จะมีให้พูดถึงอีกเยอะ… ความสำเร็จที่หมายถึงการไปถึงเป้าหมายของคนๆ หนึ่ง ซึ่ง “การเรียนให้ประสบความสำเร็จ” มักจะเป็นความสำเร็จแรกที่จะประกับความสำเร็จอื่นๆ ที่จะไปเจอในอนาคตตลอดเส้นทาง… และทั้งหมดที่สำคัญก็คือการลงมือทำตามแผนในขั้นที่ 5 เท่านั้นจึงจะเปลี่ยนจากแผนนิ่งๆ เป็นแผนที่ให้ผลลัพธ์สู่ความสำเร็จยั่งยืน

ตอนหน้ามาดูแนวทางสานแผนจนเป็นความสำเร็จด้วยกันครับ!


บทความชุด VESPA Mindset ถอดความจากหนังสือ The Student Mindset ตอนอื่นๆ ที่ท่านอาจจะสนใจครับ

  1. Vespa Mindset
  2. Students’ Vision and Attitude… จุดเริ่มต้นของ VESPA Model
  3. 15 Possible Motivations… พลังงานขับเคลื่อนพฤติกรรมการเรียนรู้
  4. 5 Roads of Vision Activity
  5. The Roadmap of Vision for Student Mindset
  6. Weekly Rule of Three… เมื่อความเพียรสำคัญต่อความสำเร็จ
  7. Collecting and Shaping for VESPA Mindset… รวบรวมและเรียบเรียง
  8. Mapping New Territory for VESPA Mindset แผนที่การเรียนรู้สิ่งใหม่
  9. Knowledge Organizer for VESPA Mindset
  10. Creativity Organizer for VESPA Mindset
  11. Enjoy–Understanding Metrix… เครื่องมือประเมินกิจกรรมการเรียนการสอน
  12. Types of Attention… ระดับความสนใจใฝ่เรียน
  13. Flow for VESPA Mindset… เมื่อผู้เรียนก็ต้องการจดจ่อดำดิ่งกับการเรียน
  14. Feedback for VESPA Mindset… เมื่อผู้สอนต้องฟังผู้เรียนให้มาก
  15. Information Overwhelm and VESPA Mindset… เมื่อข้อมูลหลากล้น
  16. Adapting Testing and Performing… ปรับเปลี่ยน ลองเรียนและลุยเลย
  17. Information + Experience = Knowledge… สูตรเรียนเก่งแบบ VESPA Mindset
  18. Independent Effort Activity Design… ออกแบบกิจกรรมที่ต้องพากเพียรเรียนรู้และฝึกฝน
  19. K-SPA… เครื่องมือฟันฝ่าอุปสรรค
  20. Problem Solving Cycle for VESPA Mindset
  21. The Art of Reactions to Feedback… ศิลปะการรับมือกับเสียงติชม
  22. The Dip… ช่วงเวลาอันอ่อนไหวเปราะบางต่อความสำเร็จ

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest
Tumblr

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts