นิยามของคำว่า Empathy หรือ ความใส่ใจ จากงานตีพิมพ์เรื่อง Social Skills And Empathy ของ Ronald E. Riggio และ คณะ อธิบายว่า… Empathy หรือ ความใส่ใจ ถือเป็นบุคลิกภาพเชิงบวกที่เกี่ยวข้องกับทักษะทางสังคมอันเป็นที่ต้องการ และ เป็นความสามารถในการเชื่อมต่อไมตรีกับผู้อื่น…
ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ… ใครก็ตามที่ได้เจอ “คนมาใส่ใจ” ด้วยการแสดงออกว่า “เขา” เข้าอกเข้าใจเราในตัวเรา หรือ การกระทำของเราแล้ว… “เรา” ก็มักจะ “ชอบ และ วางใจ” คนๆ นั้นได้ง่าย ซึ่งความเข้าอกเข้าใจที่ได้รับ และ ถูกแบ่งปันบน “จุดประสงค์ที่เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย” มักจะเป็นเรื่องดี และ สร้างความพึงพอใจระยะยาวให้กับความสัมพันธ์…
แต่ก็มีความเห็นอกเห็นใจ หรือ ความใส่ใจ หรือ Empathy ในหลายๆ กรณี จากคนหลายแบบที่ไม่ได้ดีกับใครเลยก็เป็นได้ โดยเฉพาะการแสดงความใส่ใจจากกลุ่มคนที่ถูกจัดว่าเป็นพวก Dark Triad หรือ บุคลิกภาพด้านมืด 3 แบบ ที่ประกอบไปด้วย บุคลิกแบบหลงตังเอง หรือ Narcissism… บุคลิกแบบเห็นแก่ตัว และ บ้าบิ่น หรือ Psychopathy และ บุคลิกเจ้าเล่ห์ เสแสร้ง หรือ Machiavellianism ซึ่งบุคลิกลักษณะ และ นิสัย 3 แบบที่ว่ามานี้จะเป็นพวกที่สนใจแต่ประโยชน์ส่วนตัวโดยไม่ใส่ใจใครอย่างจริงจัง… ซึ่งความใส่ใจจากจากคนที่มีบุคลิกภาพด้านมืดเหล่านี้ มักจะใช้ “ความใส่ใจ หรือ Empathy” เพื่อประโยชน์ของตัวเองอย่างแอบแฝงเป็นส่วนใหญ่… ความใส่ใจที่ได้จากคนกลุ่มนี้จึงถูกเรียกว่า Dark Empath หรือ Dark Empathy
นอกจากนั้น… ความใส่ใจ หรือ Empathy จากคนทั่วไปที่ไม่ได้มีพฤติกรรมเข้าข่าย Dark Triad หรือ บุคลิกภาพด้านมืด 3 แบบเป็นนิสัย… ก็มีโอกาสจะแสดงพฤติกรรม Dark Empath ด้วยการ “แสดงความใส่ใจ” ที่แฝงความเห็นแก่ตัว และหรือ แฝงฝังเป้าหมายเพื่อตัวเองล้วนๆ ได้ด้วย
ปัญหาก็คือ… โดยปกติของคนที่ “ได้รับ” ความใส่ใจ และ ความเห็นอกเห็นใจ จะรู้สึกว่าตนเป็น “ผู้รับมากกว่าเป็นผู้ให้” แต่พอเจอเข้ากับพฤติกรรม Dark Empath หรือ ความใส่ใจสายมืดที่มักจะซ่อนพลางเป้าหมายที่แท้จริงมาอย่างดี… คนที่รู้สึกว่าตัวเอง “ได้รับความใส่ใจ” ในเบื้องแรกมักจะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกว่า “ตนถูกกระทำ… ถูกฉวยโอกาส… ถูกใช้ประโยชน์ และ ถูกซ้ำเติม” ในที่สุดเสมอ… โดยเฉพาะคนที่ต้องการความใส่ใจในระหว่างเผชิญปัญหา และ ความยากลำบาก… ต้องการความช่วยเหลือ… ต้องการกำลังใจ… เจ็บป่วย และ เจ็บปวดทนทุกข์อยู่เดิม
Dark Empath หรือ ความใส่ใจสายมืด… จึงเป็นได้ตั้งแต่พฤติกรรมน่ารังเกียจ และ อาจจะเลวร้ายได้ถึงขั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาชญากรรมทางอารมณ์ และ สาหัสได้ถึงขั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งของการฉ้อฉล และ สถานการณ์เลวร้ายที่ “ผู้ถูกกระทำ” อาจกลายเป็น “เหยื่อ” ผู้ถูกทำลายโอกาสและอนาคตได้เลยทีเดียว
การปกป้องตัวเองจากคนสายดาร์ค ที่สร้างความสัมพันธ์กับเราด้วยการแสดงความใส่ใจ แต่เป็น Dark Empath นั้นไม่ง่าย… โดยเฉพาะคนอ่อนไหวง่ายที่โชคร้ายไปเจอคนโรคจิต และหรือ พวก Dark Triad หรือ บุคลิกภาพด้านมืด 3 แบบ และ ไปเจอเจ้ากรรมนายเวร หรือ ผู้ร้ายตัวจริงในชีวิต…
คำแนะนำเดียวในการจัดการความใส่ใจที่ได้รับจึงมีว่า… อย่าด่วนแลกเปลี่ยนความใส่ใจคืนกลับเร็วนัก!… โดยเฉพาะ “การให้” เพื่อตอบแทนความใส่ใจตามความต้องการของฝ่ายที่เสนอความใส่ใจแก่เราก่อน ซึ่งการมี หรือ ไม่มีความใส่ใจจากความสัมพันธ์นั้นไม่ได้จำเป็น หรือ ไม่ได้ติดค้างอะไรมากมาย… เพราะ Dark Empath แทบจะทุกรูปแบบจากคนทุกประเภทมักจะ “แสดง” ได้ไม่นานมาก และ ความใส่ใจทุกรูปแบบที่ดีจะเป็นความสมัครใจของฝ่ายผู้ให้เสมอ
References…