ในบรรดาหนังที่ใช้โครงเรื่องอุบัติภัยระดับสร้างหายนะทำลายโลกทั้งใบและมนุษยชาตินั้น มีหนังที่ใช้โครงเรื่องดาวหางหรือวัตถุท้องฟ้าพุ่งชนโลกที่คอหนัง Hollywood รู้จักดีอยู่ 2 เรื่องคือ Armageddon และ Deep Impact ซึ่งออกฉายในปี 1998 พร้อมกัน และทั้งสองเรื่องยังใช้ดาราเบอร์ใหญ่ของ Hollywood มารับบทเพื่อถ่ายทอดเรื่องเล่า จนคอหนังในยุคนั้นส่วนใหญ่ไม่พลาดที่จะซื้อตั๋วเข้าโรงดูทั้งคู่
โดยส่วนตัวผมชอบทั้งสองเรื่อง แต่เมื่อต้องเลือกหนึ่งเรื่องมาพูดถึงจึงค่อนข้างลำบากใจ แต่ก็อธิบายเหตุผลได้ว่าทำไมจึงเลือกพูดถึง Deep Impact… ทั้งๆ ที่บทหนังและองค์ประกอบใน Deep Impact แทบจะไม่มีอะไรโดดเด่นเอาเลย นอกจากรายชื่อนักแสดงฝีมือขั้นเทพที่คุ้นหน้าและคุ้นชื่อ จากหนัง Hollywood นับสิบคนที่รับบทและถ่ายทอดสารแฝง หรือ Embedding Message จากการตอบคำถามสำคัญที่ว่า… ถ้าโลกจะแตกดับในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า คุณจะตัดสินใจใช้เวลาที่เหลือกับอะไร?
ลูกสาวผู้ขุ่นเคืองบิดาจากปัญหาครอบครัวมายาวนาน… เลือกที่จะกลับไปตายในอ้อมแขนของพ่อ ที่บ้านริมทะเลซึ่งนานมาแล้วที่ความสุขบนสายสัมพันธ์พ่อลูกถูกทิ้งไว้ที่นี่
หนุ่มน้อยผู้เด็ดเดี่ยว… ยอมทิ้งโอกาสที่จะเป็นผู้รอดชีวิต เพื่อกลับไปอยู่กับคนรักเพียงเพื่อจะได้ร่วมชะตาที่ไล่ล่ากลืนกินคนโชคร้ายด้วยกัน และ พยายามที่สุดกับโอกาสน้อยนิดเพื่อพาตัวเองและคนรัก “ดิ้นรนเพื่ออยู่รอด” ให้ได้
หนังฉายภาพให้เห็นคนส่วนใหญ่แตกตื่นและหวาดกลัว… เห็นภาวะผู้นำของประธานาธิบดี… เห็นกลไกข้อมูลข่าวสารผ่านงานสื่อสารมวลชนที่เนื้อข่าว กับ สาระและข้อเท็จจริง อาจจะผิดเพี้ยนไกลกันราวกับเรื่องบนเตียงของคนดัง กับ เรื่องดาวหางพุ่งเข้าชนโลกกันเลยทีเดียว
ในขณะที่คนส่วนใหญ่แตกตื่นหวาดกลัวอยู่บนโลก… คนอีกกลุ่มหนึ่งกลับเตรียมตัวพลีชีพเพื่อให้คนบนโลกรอดตายอย่างสงบและกล้าหาญ… มีเพียงความหวังติดตลกว่าความตายของพวกเขา น่าจะได้รับการสดุดีด้วยการตั้งชื่อโรงเรียนมัธยมเป็นชื่อของพวกเขาปลอบใจก่อนตายเท่านั้น
Deep Impact ได้ผู้กำกับหญิงฝีมือดีอย่าง Mimi Leder จาก ซีรีย์ ER ที่คนทั่วสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกรู้จักดี… ซึ่ง Deep Impact เป็นผลงานจอเงินเรื่องที่สองของเธอต่อจาก The Peacemaker ซึ่งยืนยันฝีมือการกำกับของเธอได้อย่างดีว่าเร้าใจและน่าติดตามแค่ไหน
Deep Impact ได้รับคำชมจากนักวิจารณ์ทั่วโลกในระดับหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ติว่างานกำกับของ Mimi Leder รอบนี้น่าจะทำให้ได้ดีกว่านี้ ทั้งๆ ที่มีนักแสดงฝีมือเทพๆ มาเข้าฉากให้ทั้งเรื่อง… แต่ก็อย่างที่บอกไว้ตอนต้นแหละครับ… ถ้าข้ามดราม่าเพื่อความบันเทิงไปมองคำตอบและการตัดสินใจจากคำถามเรื่องโลกจะแตกในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า คุณจะตัดสินใจใช้เวลาที่เหลือกับอะไร? ประเด็นอื่นๆ ในหนังก็น่าจะยอมรับได้หมดในความเห็นของผม… อย่างน้อยๆ รายได้ระดับ 349.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐบน Box Office จากทุนสร้าง 80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก็น่าจะยืนยันอะไรหลายอย่างจากหนังเรื่องนี้ได้อยู่
References…