Electrofuel… เชื้อเพลิงสังเคราะห์จากคาร์บอนไดออกไซด์ #SustainableFuture

เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2023 ที่ผ่านมา… Frans Timmermans ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ได้เปิดเผยผ่านทวิตเตอร์ว่า… อียูได้บรรลุข้อตกลงกับเยอรมนีในการใช้ e-Fuels หรือ Electrofuel แล้ว และจะดำเนินการออกมาตรการด้านก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในยานยนต์ให้เร็วที่สุด… วงการพลังงานทางเลือกที่เคยพูดถึง e-Fuels ในฐานะงานวิจัยด้านพลังงานทดแทนน้ำมันที่น่าจับตา จึงเปลี่ยนเป็นพลังงานทางเลือกในเชิงโอกาสทางเศรษฐกิจ และ สิ่งแวดล้อม… ซึ่งได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางและรวดเร็วในชั่วข้ามคืน ถึงแม้หลายความสนใจจะเพิ่งเคยได้ยินคำว่า e-Fuels เป็นครั้งแรกก็ตาม

e-Fuels หรือ Electrofuel เป็นเชื้อเพลิงสังเคราะห์ หรือ Synthetic Fuel ชนิดหนึ่งที่ผลิตจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกดักจับ และ กักเก็บได้จากกระบวนการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับอุตสาหกรรม แล้วจึงนำคาร์บอนไดออกไซด์ที่กักเก็บได้ มาสังเคราะห์ร่วมกับก๊าซไฮโดรเจรที่ได้จากการสกัดด้วยพลังงานหมุนเวียน ทั้งโซลาร์เซลล์ และ กังหันลม… ทำให้ e-Fuels กลายเป็นเชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนเป็นศูนย์ เนื่องจากปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์หลังการสันดาป และหรือ เผาไหม้ เท่ากับปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใช้ผลิต e-Fuels ขึ้นมา

นอกจากนั้น… e-Fuels ยังสามารถใช้กับเครื่องยนสันดาปภายในที่มีใช้อยู่ในรถยนต์ทั่วโลกได้ทันที รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานอย่างท่อส่งน้ำมัน หรือ ปั๊มน้ำมัน… ซึ่งฝ่ายที่ต่อต้านการเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าที่ต้องใช้แร่ธาตุหายากหลายชนิดในการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า และ แบตเตอรี่… ต่างก็พูดถึงการทำลายสิ่งแวดล้อม และ ทรัพยากรโลกหนักหน่วงไม่ต่างจากการใช้น้ำมันปิโตรเลียมเป็นเชื่อเพลิงมานาน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018… ค่ายรถยนต์จากเยอรมนีแบรนด์ Audi ได้ประกาศความสำเร็จในการพัฒนา e-Benzin หรือ e-Gasoline อันเป็นเชื้อเพลิงที่ผลิตจากชีวมวล หรือ Biomass ซึ่งถูกหลอมกลั่นเป็นไอโซบิวทิลีน หรือ Isobutene ก่อนจะนำมาเติมไฮโดรเจนจนได้เชื้อเพลิงที่มีค่าความร้อนใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซิน แต่ปลอดสารกำมะถัน… ซึ่งก่อมลพิษต่ำกลังการสันดาป หรือ เผาไหม้แล้ว

ในขณะเดียวกัน… แบรนด์รถยนต์ร่วมชายคาบริษัทแม่เดียวกันอย่าง Porsche ก็ได้พันาเครื่องยนต์สำหรับ e-Fuels ที่ Porsche สังเคราะห์ขึ้นจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และ ไฮโดรเจนจากน้ำที่ใช้ไฟฟ้าพลังงานลมในการแยกธาตุประกอบ และ ได้ประกาศเปิดโรงงานผลิต e-Fuels ในเชิงพาณิชย์ที่ประเทศชิลีเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา… ซึ่งถือว่าเป็นโรงงานผลิต e-Fuels ในเชิงพาณิชย์ หรือ Commercial Plant แห่งแรกของโลก 

Michael Steiner หนึ่งในบอร์ดบริหารของ Porsche ให้ความเห็นว่า… e-Fuels มีศัยภาพอย่างมาก เนื่องจากปัจจุบันยังมีรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในกว่า 1.3 พันล้านคันทั่วโลก ซึ่งรถเหล่านี้จะยังคงอยู่บนถนนอีกหลายทศวรรษ และ eFuels จะเป็นตัวเลือกสำหรับเจ้าของรถเหล่านี้ในอนาคตอันใกล้

Credit: Infiniumco.com

e-Fuels ถูกสังเคราะห์สำเร็จครั้งแรกในปี 2009 ภายใต้ทุนวิจัยของ ARPA-E หรือ Advanced Research Projects Agency–Energy หรือ สำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงด้านพลังงาน ของสหรัฐอเมริกา โดยมี Professor Dr. Eric Toone จาก Duke University เป็นหัวหน้าโครงการ… ในการสัมมนาใหญ่ในหัวข้อ Electrofuel ครั้งแรกภายใต้การจัดงานของ American Institute of Chemical Engineers ที่มีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ในเมือง Providence, Rhode Island ซึ่ง Professor Dr. Eric Toone ได้ขึ้นกล่าวไว้ตอนหนึ่งว่า… ตลอดสิบแปดเดือนในวิจัย เรารู้ว่า e-Fuels ใช้ได้จริง และ เราจำเป็นต้องรู้ว่าเราสามารถทำให้ e-Fuels มีบทบาทสำคัญได้หรือไม่… ซึ่งต่อมาได้นำไปสู่การผลักดัน และ ทดสอบโดยค่ายรถยนต์ระดับโลกเกือบทุกแห่งที่มีตลาดรถยนต์สันดาปภายในตรองส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่

อย่างไรก็ตาม… การวิเคราะห์ในหลายวงสนทนาชี้ว่า e-Fuels น่าจะถูกวางตลาดเป็นเชื้อเพลิงทางเลือกสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในที่จะเข้ามาต่ออายุ “รถคลาสสิค” ให้มีเชื้อเพลิงที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนใช้ต่อไปมากกว่าจะมาเป็นคู่แข่งของแบตเตอรีในยานยนต์ไฟฟ้า หรือแม้แต่เป็นคู่แข่งกับกับนำมันปิโตรเลียม… เพราะต้นทุนการผลิต e-Fuels ในปัจจุบัน แล อนาคตอันใกล้นี้จะยังคงแพงกว่าเชื้อเพลิง แลพ พลังงานทางเลือกอื่นอยู่หลายเท่าตัว… แต่ทุกวงสนทนาก็เชื่อว่าจะเป็นเชื้อเพลิงทดแทนน้ำมันปิโตรเลียมสำหรับพาหนะทุกชนิดในที่สุด

References…

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest
Tumblr

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *