Emotional Self Invalidation… รู้สึกผิดหวังกับตัวเอง #SelfInsight

ความเชื่อมั่นในตัวเอง และ ความพึงพอใจที่มีให้ตนเองซึ่งทั้งหมดมาจากประสบการณ์ส่วนตัวนั้น… ในทางจิตวิทยาจะเกี่ยวพันถึงสุขทุกข์ในใจของคนๆ นั้น จากการที่ “ตนเองประเมินตนเอง”​ ผ่านประสบการณ์ทั้งที่เป็นความสำเร็จล้มเหลว และ สมหวังหรือผิดหวังในตัวเอง… ซึ่งข้อสรุปสุดท้ายที่ได้จากการประเมินตนเองมักจะเป็นต้นทางของอารมณ์ความรู้สึกที่คนๆ หนึ่งมีต่อตัวเองอย่างมีนัยสำคัญ… โดยหลายข้อสรุปที่ทำให้ “รู้สึกกับตัวเอง” ทั้งที่เป็นด้านดี และ ด้านไม่ดี ก็จะกลายเป็นความเชื่อส่วนตัวโดยถูกใช้เป็นบุคลิกภาพ และ ถูกใช้พัฒนารูปแบบความสัมพันธ์กับผู้อื่น รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอง กับ อารมณ์ตนเองในเวลาต่อๆ มาเสมอ

ประเด็นก็คือ… การที่ตนเองประเมินตนเองออกมาได้ไม่ดีจากประสบการณ์ที่คนๆ หนึ่ง “ประเมิน หรือ มองว่า” ตนเองน่าผิดหวัง… โดยเฉพาะความน่าผิดหวังที่ก่อให้เกิดอารมณ์กรุ่นโกรธทั้งตัวเอง ผู้อื่น และ โชคชะตา… เสียใจ… น้อยเนื้อต่ำใจ และ เจ็บช้ำ… สุดท้ายก็จะทำให้ตนเองตกอยู่ในภาวะอารมณ์ที่ขาดความเชื่อมั่นในตัวเองอย่างรุนแรง ซึ่งหลายกรณีรุนแรงถึงขั้นที่เรียกว่าเป็นโมฆะทางอารมณ์ หรือ Emotional Self Invalidation โดยจะมีความคิดเชิงลบ และ ความรู้สึกไม่ยอมรับตัวเองในแบบที่ตนเองเป็น–อยู่–คือ

บทความตีพิมพ์จากงานวิจัยทางจิตวิทยาเรื่อง The Self-Invalidation Due to Emotion Scale: Development and psychometric properties ของ Regina E. Schreiber และ Jennifer C. Veilleux จาก University of Arkansas ชี้ว่า… Self Invalidation เป็นพฤติกรรมตีตราตนเองจากอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อตัวเองในเชิงลบ ซึ่งพฤติกรรม Self Invalidation จะนำไปสู่วัฏจักรการทำให้ตนเองต้องตำหนิตนเองหนักขึ้น ควบคุมอารมณ์ตนเองได้ยาก ขัดแย้งในตัวเองมาก และ สัมพันธ์กับการเจ็บป่วยทางจิตอย่างชัดเจน… 

นักวิจัยจาก University of Arkansas ทั้ง 2 ท่านได้ร่วมกันพัฒนาเครื่องมือประเมินระดับอารมณ์ที่มีต่อการไม่ยอมรับตัวเอง หรือ Self-Invalidation Due to Emotion Scale หรือ SIDES ก่อนจะนำไปทดสอบกับกลุ่มตัวอย่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาใน University of Arkansas พบว่า… กลุ่มตัวอย่างที่มีอารมณ์ความรู้สึกต่อตัวเองขั้น Self Invalidation หรือ มองว่าตนเองเป็น “บุคคลโมฆะ” เกินกว่าจะยอมรับตัวเองได้… จะบ่งชี้ถึงความสามารถในการควบคุมอารมณ์ที่ผิดปกติ และ มีการแสดงปฏิกิริยาทางอารมณ์โดยขาดความสามารถในการยับยั้ง และ ไม่รู้ตัวว่าได้เสียการควบคุมตนเองไปมากในภาวะอารมณ์ระดับหนึ่ง… ซึ่งคนแบบนี้ล้วนแบกทุกข์เพราะตัวเองทำตัวเอง กดดันตัวเอง อารมณ์เสียใส่ตัวเอง และ วนเวียนอยู่กับวัฏจักร “ทั้งรัก–ทั้งเกลียดตัวเอง” ตลอดเวลา 

ข้อเสนอแนะจาก Dr.Holly Parker นักจิตวิทยาผู้เขียนหนังสือ “เมื่อความจริงกัดกินเรา หรือ When Reality Bites: How Denial Helps and What to Do When It Hurts” ชี้ว่า… การหาทางออกจากกับดักการเป็นปฏิปักษ์กับตัวเองจนเข้าไปอยู่ในวังวน Self Invalidation ต้องรู้จักแยกแยะอารมณ์ หรือ Emotion ออกจากพฤติกรรม หรือ Behavior เช่น มีอารมณ์โกรธ ก็ไม่จำเป็นต้องระบายโกรธออกมาทางไหนเลยก็ได้… ซึ่งก็มีคนบางกลุ่มที่เข้าใจว่า คิดอย่างไร–รู้สึกอย่างไร–ก็แสดงออกอย่างนั้น ถือว่าเป็นคนตรง คนจริง และ คนกล้า… ทั้งๆ ที่ผลกระทบจากความคิดลบ–พฤติกรรมลบ–ทำให้แสดงออกในเชิงลบ แล้วแสดงพฤติกรรมด้านลบจะพาตัวเองเดือดร้อนได้ง่ายแบบ “เด็กช่างกลยกพวกตีกัน” ด้วยเหตุผลโง่ๆ ที่ใช้อ้างความคิดลบที่ขาดการยับยั้งควบคุมที่ดีก็ตาม… ซึ่งคนที่คิดลบกับตัวเอง และ แสดงพฤติกรรมเชิงลบกับตัวเอง… ก็ไม่พ้นจะมีภาพ และ มีสภาพในทำนองเดียวกันกับเด็กช่างกลเล่นงานคู่ปรับ… เพียงแต่คนคิดลบกับตัวเอง และ เล่นงานตัวเองอย่างที่คิดได้แต่เรื่องลบๆ แทบจะไม่มีแม้แต่เหตุผลโง่ๆ ให้เอ่ยอ้าง!

References… 

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest
Tumblr

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts