กระแส #FridaysForFuture และ #GretaThunberg ยังคงร้อนแรงในห้วงที่ มีการจัดประชุมใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ ณ มหานครนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา… ผมดีใจที่เด็กๆ ทั่วโลกตื่นตัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และกำลังสร้างความกังวลให้หลายๆ ฝ่าย รวมทั้งส่งสารถึงหลายๆ ฝ่ายในโหมดที่สร้างสรรค์
และไม่ว่าจะอย่างไร กระแสด้านสิ่งแวดล้อมจากนาทีนี้… จะเปลี่ยนโลกไปจากเดิมอย่างแน่นอน และผมศรัทธาในพลังของเด็กสุดใจ
ระหว่างค้นข้อมูลด้านพิษและสิ่งแวดล้อมเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนไหว #FridaysForFuture ที่ผมเข้าร่วมกิจกรรมกลุ่มบน Facebook… ผมพบข้อมูลเก่าที่เผยแพร่ไว้ตั้งแต่ปลายปี 2018 บนเว็บไซต์ National Geographic เรื่อง Fast facts about plastic pollution โดย LAURA PARKER นักข่าวหญิงเหล็กสายสิ่งแวดล้อมของ National Geographic
บทความของ LAURA PARKER อ้างอิงตัวเลขสถิติจาก Great Britain’s Royal Statistical Society ถึงสถาณการณ์พลาสติกและขยะพลาสสติกโลกว่า… มีพลาสติกใช้แล้วเพียง 9.5% ที่กลับมารีไซเคิลได้ใหม่ นั่นแปลว่าในระบบนิเวศน์รอบๆ ตัวเรา มีพลาสติกเกลื่อนกลาดอยู่มากถึง 90.5%… แปลซ้ำอีกทีได้ว่า ถ้าท่านรับถุงพลาสติกมา 10 ใบ ท่านเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างขยะจากถุงพลาสติกถึง 9 ใบใส่ระบบนิเวศน์
สถานการณ์ขยะพลาสติกจึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไปสำหรับพวกเรา… มีตัวเลขการคาดการณ์ถึงปริมาณพลาสติกที่ผลิตใช้ในโลกในปี 2018 สูงถึง 63,000 ล้านตัน… ในจำนวนนี้ 40% เป็นพลาสติกที่เป็นแพ็คเกจจิ้ง… ซึ่งหมายถึงใช้ครั้งเดียวทิ้ง… 40% ของหกหมื่นสามพันล้านตันก็เท่ากับ 25,200 ล้านตันแค่นั้นเองครับ!!!
ตัวเลขที่น่าสนใจอีกอันคือแหล่งผลิตพลาสติกในเอเชีย ที่มีตัวเลขรวมกันถึง 50% ของการแปรรูปพลาสติกทั้งโลก
นอกนั้นเป็นตัวเลขการบริโภค ที่มีพลาสติกเป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในรูปของแพ็คเกจจิ้งบ้าง อเนกประสงค์บ้าง… อย่างเช่นขวดเครื่องดื่มที่คนอเมริกันใช้ในปี 2015 มากถึง 346 ขิ้นต่อคน
…ถ้าเป็นน้ำดื่มแพ็ค 12 ขวดก็ราวๆ 29 แพ็คครับ!!!
Infograhpic ที่ผมใส่มาให้ดูผม Capture Screen มาจากบทความของ LAURA PARKER นั่นแหละครับ เผื่อท่านที่ไม่อยากคลิกเข้าไปดูต้นฉบับ ส่วนท่านที่สนใจผมก็วางลิงค์ไว้ใต้อ้างอิงเช่นเดิมครับ… รายละเอียดของ Infographic ผมไม่คุยแล้วน๊ะครับ เพราะผมเชื่อว่า สรุปรวมๆ ก็เพื่อจะบอกกันว่าสถานการณ์ขยะพลาสติกเลวร้ายหนักหนาระดับหมื่นล้านตันกันแล้ว
แต่พลาสติกก็นำความสะดวกสะบายมาสู่ชีวิตประจำวันของเรา… เดี๋ยวก่อน!
ถ้าประเด็นคือความสะดวกสะบายในชีวิตประจำวัน นั่นแปลว่า หากมีนวัตกรรมอย่างอื่นมาแทนพลาสติก เราก็แค่เลิกใช้พลาสติกเท่านั้นเอง
แต่วันนี้เราต้องใช้อยู่… ก็ช่วยกันลดการใช้เท่าที่จำเป็นและจัดการหลังจากใช้ให้เหมาะสม… อย่างน้อยๆ เราก็ไม่อายเด็กที่ตื่นตัวกันค่อนโลก มาตั้งคำถามกับคนรุ่นเราที่แม้แต่ประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบันยังอ้ำอึ้ง
ช่วยกันครับ!!!
อ้างอิง