Active Listening

Feedback for VESPA Mindset… เมื่อผู้สอนต้องฟังผู้เรียนให้มาก

ความสำคัญของการเจัดการเรียนการสอน โดยมีผู้เรียนเป็นศูนย์กลางนั้น นับวันจะยิ่งสำคัญและมีความเป็นนิช หรือ Niche หรือ Niche Market อย่างชัดเจนกว่ายุคไหนๆ… และผมจงใจใช้คำว่า Niche Market หรือตลาดเฉพาะเจาะจงเหมือนธุรกิจการค้าและการตลาด เพราะในทางเทคนิคแล้ว… การจัดการศึกษาทุกรูปแบบเป็นธุรกิจและการตลาดมาแต่ไหนแต่ไร เพียงแต่หลายกรณีคนจ่ายกับคนใช้บริการเป็นคนละคนกันเท่านั้นเอง… ซึ่งก็คงไม่ต้องอธิบายกลไกอะไรเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจว่า… แท้จริงแล้วการศึกษาเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ไม่แพ้ธุรกิจระดับปัจจัย 4 หรือธุรกิจยานยนต์และการสื่อสารมาเช่นกัน

และเมื่อเรามอง “กิจกรรมทางการศึกษาเป็นธุรกิจ” แน่นอนว่าลูกค้าในระบบนิเวศน์ธุรกิจนี้ก็คงเป็น “นักเรียนและผู้ปกครอง” ที่เป็นคนรับบริการ… และบทความตอนที่แล้วพูดถึง “ลูกค้าของกิจกรรมทางการศึกษา ที่เรียกว่า ผู้เรียน” จำเป็นต้องถูกใส่ใจเพื่อให้เข้าถึงภาวะ Flow หรือภาวะดำดิ่งกับกิจกรรมการเรียนรู้เท่านั้น จึงจะได้ชื่อว่า Learners Center อย่างแท้จริง… ปัญหาใหญ่ที่ตามมาจึงมีหลายประเด็นให้พิจารณาต่อ หากต้องการพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรไปจนถึงแผนการสอนให้เกิด Flow กับผู้เรียนทุกคน… บนความหลากหลายแตกต่างของผู้เรียนทั้งหมด

ในหนังสือ The Student Mindset ของ Steve Oakes และ Martin Griffin ใช้คำสำคัญในบทที่ 5 เพียง 2 คำคือ Flow กับ Feecback ซึ่งชัดเจนในบริบท แม้จะต้องทำความเข้าใจจากหลายมุมมองต่ออีกพอสมควรก็ตาม

ส่วนตัวผมอธิบายแบบนี้ครับ… มนุษย์ทุกคนมีสิ่งที่ชอบและสิ่งที่ใช่แตกต่างกัน และไม่เว้นแม้แต่ผู้ที่ยังอยู่ในกลไกการศึกษาในฐานะผู้เรียนทุกเพศทุกวัย ซึ่งการจะ “เข้าใจความแตกต่างของผู้เรียนว่าพวกเขาแต่ละคน Focus กับอะไรได้นานแค่ไหน และ เข้าใจความแตกต่างว่าพวกเขา Happy กับสภาวะแบบไหนอย่างไร… หลักสูตรและการสอนต้อง “ฟังข้อเท็จจริงจากผู้เรียนโดยตรง”

โดยส่วนตัวผมเข้าใจดีว่า… “การฟัง” ยากกว่า “การสั่ง” มาก แม้ว่าข้อดีของการฟังจะไม่ต้องคอยเค้นเอาคำตอบว่า “เข้าใจมั๊ย?” ซ้ำๆ เหมือนการสั่งก็ตาม ซึ่งความยากของการฟังจะอยู่ลึกกว่าการได้ยินเสียงพูดของคู่สนทนาธรรมดา แต่ยังได้ยินจนเข้าใจบริบทที่อยู่เบื้องหลังคำพูดเหล่านั้นอย่างถูกต้องลึกซึ้งเข้าขั้น Active Listening ได้ยิ่งดี

ผมพูดถึงการฟังก็เพราะว่า… สิ่งที่ระบบการศึกษาต้องปรับเปลี่ยนทันทีก่อนอื่นคือ การฟังเสียงสะท้อนจากตัวผู้เรียนถึงผู้สอนและระบบการศึกษา ซึ่งระบบการศึกษาต้องเปิดทางให้เสียงสะท้อนจากตัวผู้เรียน หรือ Learners’ Feedback… ถูกใส่ใจและนำไปออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อผู้เรียนที่แตกต่าง โดยมีเป้าหมายให้ผู้เรียนจดจ่อกับองค์ความรู้ที่ใช้พัฒนาตนเองอย่างมีความสุข 

แนวทางก็คือ… พัฒนาเครื่องมือรับ Feedback ที่มีประสิทธิภาพขึ้นมาใช้กับผู้เรียนให้ได้ก่อนอื่น แล้วค่อยพัฒนากลยุทธ์ใส่หลักสูตรและเนื้อหาสาระที่ผู้เรียนต้องบรรลุวัตถุประสงค์… โดยส่วนตัวผมเคยเห็นชุดสอนภาคตัดกรวยพาราโบลาที่อ้างอิงการเล่นฟุตบอลของดาวยิงชื่อดังในพรีเมียร์ลีก ที่ครูคณิตศาสตร์ใช้สอนนักเรียนมัธยมสาม ซึ่งสนใจแต่ฟุตบอลจนต้องมาเรียนซ่อมคณิตศาสตร์ และกลับไปสอบซ่อมทำคะแนนเฉลี่ยได้ใกล้เคียงกับเด็กเก่งคณิตศาสตร์มาแล้ว

คุณครูครับ… ฟังผมหน่อย!


บทความชุด VESPA Mindset ถอดความจากหนังสือ The Student Mindset ตอนอื่นๆ ที่ท่านอาจจะสนใจ
  1. Vespa Mindset
  2. Students’ Vision and Attitude… จุดเริ่มต้นของ VESPA Model
  3. 15 Possible Motivations… พลังงานขับเคลื่อนพฤติกรรมการเรียนรู้
  4. 5 Roads of Vision Activity
  5. The Roadmap of Vision for Student Mindset
  6. Weekly Rule of Three… เมื่อความเพียรสำคัญต่อความสำเร็จ
  7. Collecting and Shaping for VESPA Mindset… รวบรวมและเรียบเรียง
  8. Mapping New Territory for VESPA Mindset แผนที่การเรียนรู้สิ่งใหม่
  9. Knowledge Organizer for VESPA Mindset
  10. Creativity Organizer for VESPA Mindset
  11. Enjoy–Understanding Metrix… เครื่องมือประเมินกิจกรรมการเรียนการสอน
  12. Types of Attention… ระดับความสนใจใฝ่เรียน
  13. Flow for VESPA Mindset… เมื่อผู้เรียนก็ต้องการจดจ่อดำดิ่งกับการเรียน

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest
Tumblr

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts