การประท้วงที่เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ไม่แพ้การประท้วงที่ฮ่องกง เกิดขึ้นที่สวีเดนเป็นครั้งแรก ภายใต้แคมเปญการรณรงค์ที่เรียกว่า Fridays for Future โดยสาวน้อยชื่อ เกรียตา ทืนแบร์ย (Greta Thunberg) นักเรียนเกรด 9 (มัธยมศึกษาปีที่ 3) กับข้อความ “Skolstrejk för klimatet” (School strike for the climate | หยุดเรียนเพื่อภูมิอากาศ)
Greta Thunberg ตัดสินใจไม่เข้าเรียนในวันศุกร์ เพื่อไปรณรงค์เรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมและภูมิอากาศ ที่หน้ารัฐสภาของสวีเดน ก่อนที่สวีเดนจะมีการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อช่วงกันยายน 2018 ที่ผ่ามา
เนื้อหาข้อเรียกร้องของ Greta Thunberg คือการผลักดันให้ผู้ใหญ่ของสวีเดน ยอมรับและตกลงปฏิบัติตาม ความตกลงปารีส หรือ Paris Agreement ซึ่งว่าด้วยความตกลงเรื่องการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ ที่เป็นต้นเหตุของภาวะโลกร้อนและภูมิอากาศแปรปรวนทั่วโลก
ผ่านมาหนึ่งปี… การประท้วงภายใต้แนวคิด Fridays for Future ได้เติบโตและทรงพลังขึ้นอย่างยิ่งใหญ่
กระทั่งมีกิจกรรมภายใต้ชื่อ หยุดเรียนเพื่อภูมิอากาศ (School strike for Climate) ได้ประกาศวันนัดชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ทั่วโลก 2 วัน ในเดือนกันยายน 2019
เริ่มวันที่ 20 กันยายน 2019 ชื่อแคมเปญ Climate Strike เพื่อให้พลังของการชุมนุมครั้งนี้ รวมตัวกันส่งสารถึง การประชุมเร่งด่วนเพื่อภูมิอากาศของสหประชาชาติ (UN Climate Action Summit 2019) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 27 กันยายน 2019 ณ สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก
ในสัปดาห์นี้ ทั่วโลกจะมีการจัดชุมนุมภายใต้แคมเปญ Climate Strike ขึ้น หลายฝ่ายคาดว่าจะมีกิจกรรมใน 130 ประเทศหรือกว่านั้นจากเครือข่ายการลงทะเบียนกับ https://www.fridaysforfuture.org
แกนนำผู้จัดการรณรงค์ในครั้งนี้หวังว่า แคมเปญครั้งนี้จะประสบความสำเร็จมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเชิญชวนให้คนทุกวัย ทุกสาขาอาชีพ มาร่วมการประท้วงไปกับกลุ่มนักเรียนด้วย นอกจากนี้ งานนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน ทั้งองค์กรอิสระ บริษัทเอกชน สมาคม และกลุ่มความเคลื่อนไหวทางสังคมต่าง ๆ เช่น 350.org, Amnesty International, Extinction Rebellion, Greenpeace International, Oxfam, WWF, Patagonia, Ben & Jerry’s, Lush, Atlassian, และองค์กรอื่นๆ อีกมากมาย
ในนิวยอร์ก โรงเรียนรัฐบาลได้ประกาศอนุญาตให้นักเรียนสามารถเข้าร่วมได้หากได้รับการอนุญาตจากผู้ปกครอง
ในออสเตรเลีย บริษัทเอกชนหลายแห่งก็สนับสนุนให้พนักงานเข้าร่วมการประท้วงในเมืองของตน และสนับสนุนให้ทุกบริษัทในประเทศมีส่วนร่วมด้วยเช่นกัน
ปัญหาเรื่องโลกร้อนและคาร์บอนในชั้นบรรยากาศ เป็นเรื่องใหญ่ แต่ผมจะข้ามเรื่องนี้ไปเพราะผมเชื่อว่า ทุกท่านที่รู้จักผม อ่านงานผม หรือเพิ่งจะอ่านข้อเขียนของผมครั้งแรกก็เถอะครับ… คงเข้าใจเรื่องนี้อยู่ระดับหนึ่ง… ซึ่งผมเองก็ไม่ได้แตกต่างจากทุกท่านที่รับรู้ เข้าใจและตระหนักในปัญหาสภาพอากาศ ที่ผมก็เจอเหมือนๆ กับทุกท่านตั้งแต่ควันพิษ PM 2.5 อากาศร้อนอบอ้าวกว่าในอดีต
ที่รับรู้ กังวล… แล้วก็ซื้อหน้ากากกรองอากาศให้ตัวเองและคนในครอบครัว เพื่อใชชิวิตประจำวันเหมือนเดิม
แต่กับ Greta Thunberg… สาวน้อยที่รับรู้ กังวล แล้วลุกขึ้นมาทำบางสิ่งเพื่อเปลี่ยนแปลง
กรณีของ Greta Thunberg ในมุมองของผมจึงไม่ใช่คุณูปการที่มีต่อสภาพแวดล้อมเพียงอย่างเดียว เพราะถึงนาทีนี้ Greta Thunberg ได้กลายเป็นแบรนด์ด้านสิ่งแวดล้อม ที่แข่งแกร่งและทรงพลังพอที่จะผลักดันการเปลี่ยนแปลงเรื่องที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่งที่มนุษย์ต้องเผชิญ
ในทัศนของผม… การรณรงค์หรือประท้วงแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่มีกิจกรรมแบบนี้เกิดขึ้นทั่วทุกมุมโลก และหายไป จนเราจำรายละเอียดไม่ได้… รับรู้ว่าโลกร้อน รับรู้ว่าชั้นบรรยากาศรั่วอยู่… เหมือนเรานอนกางมุ้งเป็นรูโหว่ ในขณะที่ยุงลายกับเชื้อไข้เลือดออกบินวนอยู่ข้างนอก แต่เราก็ไม่ได้ทำอะไร… แค่ลุกมาโวยวายใส่คนในมุ้งเดียวกัน แล้วก็ผ่านไป
แต่ Greta Thunberg ลุกขึ้นมา “นำคนที่คิดแบบเดียวกัน” ด้วยการสร้างเครื่องมือหลายอย่างขึ้น ผลักดันกิจกรรม Fridays for Future ให้มีพลังหนุนเป้าหมายที่สาวน้อย Greta ต้องการ
ผมเข้าไปศึกษารายละเอียดจาก fridaysforfuture.org แล้วต้องยอมรับว่า รายละเอียดในเพจ How To Climate Strike ที่มี White Paper แชร์ไว้ชื่อ School #ClimateStrike – All You Need To Know เป็นคู่มือที่มีรายละเอียดให้คนที่ “คิดแบบเดียวกัน” มีทิศทางและ Know how สำหรับการเริ่มต้นได้ทันที… นอกจากนั้นยังมีร่างจดหมายที่ร่างไว้เสร็จแล้ว เหลือเติมข้อความอีกเล็กน้อย แชร์ไว้ให้ใช้… และอะไรอีกมากมายที่เป็นทรัพยากรเชิงข่าวสารที่หยิบมาใช้ได้ทันที
ผมคิดว่าแคมเปญแบบนี้ที่ไม่ได้มีแต่หน้าฉากถือป้ายตะโกน… เป็นเครื่องยืนยันว่า Greta Thunberg เอาจริงเอาจังและคุ้มค่าที่จะเข้าร่วม
ปรากฏการณ์ Greta Thunberg จึงน่าสนใจและเจาะลึกเรียนรู้ในมิติต่างๆ ที่ผมคิดว่า… มีเรื่องให้เรียนรู้มากมาย
สิ่งหนึ่งที่ผมต้องย้อนคิดคือ… เราอาจจะต้องเรียนรู้จากเด็กๆ มากกว่าที่เป็นมา
ท่านที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมช่วย Fridays for Future คลิกที่นี่ครับ ส่วนผม… สมัครเข้ากลุ่มบน Facebook ไปแล้วครับ… เพราะในโซเชียลมีเดีย ผมทำอะไรช่วยได้มากกว่าบนถนนที่ผมไม่ถนัด ท่านที่สนใจเชิญที่กลุ่มนี้ครับ https://www.facebook.com/groups/929294497203110/
อ้างอิง