เหตุการณ์ทางทหารในสงครามโลกครั้งที่สองทุกแนวรบในแผ่นดินยุโรป ในช่วงปลายสงครามนั้น ยุทธการในพื้นที่เขตเมือง Ardennes ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนระหว่างประเทศ Belgium และ Luxembourg ในยุทธการตอกลิ่ม หรือ Battle of the Bulge โดยกองทัพนาซีเยอรมันได้จู่โจมแนวรบฝ่ายสัมพันธมิตรใน เขตอาเดน หรือ Ardennes แห่งนี้เพื่อแบ่งแนวรบฝ่ายสัมพันธมิตรออกจากกัน อันเป็นการโต้กลับเพื่อไม่ให้ถูกปิดล้อม หลังจากกองทัพเยอรมันต้องล่าถอยในเหตุการณ์ยกพลขึ้นบกที่นอร์มังดี หรือ Normandy Landings
สถานการณ์ที่พลิกกลับจากยุทธการตอกลิ่ม หรือ Battle of the Bulge ในเขตอาเดนก่อนคริสต์มาสปี 1944 นั่นเองที่ทำให้ Thomas Hart นายทหารสัญญาบัตรยศร้อยโทถูกจับเป็นเชลยในขณะขับรถจี๊บไปส่งนายทหารอีกคนหนึ่งที่แนวหน้าพร้อมไวน์ฉลองคริสต์มาสของฝากผู้บัญชาการทัพหน้า โดยไม่รู้ว่าฐานทัพปลายทางถูกครองพื้นที่โดยฝ่ายนาซีเยอรมันไปแล้ว… เพื่อนนายทหารที่โดยสารรถมาด้วยกันถูกยิงเสียชีวิตที่จุดสกัดโดยทหารเยอรมัน และ Thomas Hart ถูกจับเป็นเชลย
Thomas Hart ถูกสอบสวนให้บอกที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของฐานทัพสัมพันธมิตร… และไม่กี่วันหลังจากนั้นก็มีการโจมตีทางอากาศต่อฐานทัพสัมพันธมิตร และ คลังน้ำมันจนแนวรุกของฝ่ายสัมพันธมิตรต้องหยุดการรุกคืบไปจนกว่าเสบียงและน้ำมันจะมาถึงหลังปีใหม่… และ Thomas Hart ถูกส่งตัวเข้าค่ายกักกันของนาซีหลังจากนั้น
ที่ค่ายกักกัน… Thomas Hart ซึ่งเป็นนายทหารสัญญาบัตรได้ไปรายงายตัวกับนายทหารยศพันเอกชื่อ William McNamara ซึ่งเป็นนายทหารชั้นยศสูงสุดที่ถูกจับเป็นเชลยอยู่ในค่ายกักกันแห่งนี้อยู่ก่อน… William McNamara ส่ง Thomas Hart ไปนอนในโรงนอนพลทหารหลังจากซักถามพูดคุยจบลง ซึ่ง Thomas Hart ก็เข้าใจความแออัดของโรงนอนนายทหาร แต่นายทหารคนสนิทของ William McNamara รู้เหตุผลที่ “นาย” ส่ง Thomas Hart ไปโรงนอนพลทหารเพราะมั่นใจว่าหมอนี่ “คายความลับที่ตั้งทางทหารแลกชีวิตตัวเอง” จนรอดมาถึงค่ายกักกันแห่งนี้
ค่ายกักกันเชลยสงคราม หรือ ก็คุกประเภทหนึ่งซึ่งก็จะมีตัวร้ายแผ่อิทธิพลครอบงำเพื่อนมนุษย์ร่วมชะตากรรมคนอื่นๆ เหมือนกันทุกที่… ที่โรงนอนพลทหารหลังนั้นก็มีนายทหารชั้นประทวนยศจ่าชื่อ Vic Bedford ทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลในโรงนอนหลังนั้น และ ยังมีพฤติกรรมลับๆ ล่อโดยการเล็ดลอดออกจากโรงนอนยามวิกาลเนืองๆ
วันต่อมาก็มีเชลยอเมริกันอีกสองคนถูกส่งเข้ามาในค่าย… ทั้งสองคนเป็นนักบินชั้นสัญญาบัตรจากหน่วย Tuskegee Airmen ซึ่งเป็นกองบินของเสืออากาศผิวสี หรือ นักบินเชื้อสายแอฟริกันอเมริกัน… และ William McNamara ส่งนักบินผิวสีทั้งสองนายเข้าโรงนอนเดียวกับ Thomas Hart ท่ามกลางบรรยากาศการเหยียดผิวในโรงนอน
กรณีเหยียดผิวในค่ายเชลยนำไปสู่เหตุการณ์ค้นโรงนอน และ พบมีดซุกอยู่ใต้ที่นอนของนักบินผิวสีคนหนึ่ง ซึ่งมีโทษถึงตายด้วยการรวบรัดประหารโดยไม่สอบสวนด้วยการยิงทิ้งที่หน้าโรงนอนนั่นเอง… แรงกระทบกระทั่งเรื่องเหยียดเชื้อชาติในโรงนอนระหว่างนักบินผิวสีที่เหลือรอดอยู่ กับ Vic Bedford จึงชัดเจนเพราะเพื่อนนักบินถูก “ยัดหลักฐานปรักปรำ” จนถูกฆ่าตายอย่างไม่เป็นธรรม… แต่ในคืนต่อมาก็เกิดเหตุฆาตกรรม Vic Bedford นอกโรงนอนในยามวิกาลขึ้น และ จำเลยที่ถูกกล่าวหาก็คือ Lincoln Scott นักบินผิวสีผู้เคียดแค้นชิงชังคู่กรณีของ Vic Bedford นั่นเอง
การกล่าวหา Lincoln Scott สุ่มเสี่ยงที่จะถูกลงโทษด้วยการประหารเช่นกัน เพียงแต่เป็นเหตุฆาตกรรมระหว่างทหารอเมริกัน ซึ่งธรรมนูญทหารอเมริกันยังใช้ได้แม้ในค่ายเชลย โดยทหารเยอรมันเองก็ปล่อยให้เชลยศึกสะสางกันเองเพื่อความบันเทิง… Thomas Hart ขอให้ William McNamara เปิดศาลทหารไต่สวนก่อนตัดสินความผิดของ Lincoln Scott… และ Thomas Hart อาสาเป็นทนายจำเลยด้วยความรู้ทางกฏหมายของนักศึกษานิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเยล โดยมี William McNamara ทำหน้าที่ผู้พิพากษา
การต่อสู้คดีในศาลที่จำลองขึ้นในโรงละครของ Thomas Hart และ Lincoln Scott ไม่มีหนทางจะชนะคดีด้วยพยานหลักฐานใดๆ เลยจน Lincoln Scott รู้ชะตากรรมตนเองแล้วว่าจะถูกส่งตัวให้ทหารเยอรมันลงโทษฐานก่อเหตุฆาตกรรมในค่ายเชลย… ในขณะที่ William McNamara กลับมีพฤติกรรมน่าสงสัยหลายอย่าง ซึ่ง Thomas Hart บังเอิญไปเห็นแผนการขุดอุโมงค์หลบหนีของ William McNamara และนายทหารคนสนิททั้งชุด โดยมีการไต่สวนคดีฆาตกรรมถูกใช้เพื่อถ่วงเวลาขุดอุโมงค์หลบหนีนั่นเอง
Thomas Hart จึงกลับไปศาล และ สารภาพว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุฆาตกรรม Vic Bedford เสียเองเพื่อปกป้องนักบินผิวสีผู้ถูกป้ายความผิดจากพฤติกรรมเห็นแก่ความอยู่รอดปลอดภัยส่วนตัวของ William McNamara และ นายทหารคนสนิท ที่กำลังวางแผนหลบหนี และ พฤติกรรมเห็นแก่ความอยู่รอดปลอดภัยอย่างเห็นแก่ตัวของ Vic Bedford ที่ทำตัวเป็นสายให้ให้ผู้คุมจนกลายเป็นผู้มีอิทธิพลในคุก
โดยส่วนตัวได้สารแฝง หรือ Embedding Message ในประเด็นสงครามที่แท้เกิดในใจของทุกคน เกิดในความกลัว และ ความทุกข์ทรมานของทุกคน… กรณีของ Thomas Hart ผู้ยอมเปิดเผยที่ตั้งทางทหารของฝ่ายตนกับฝ่านศัตรู หลังจากทนความเจ็บปวดหวาดกลัวจากการสอบสวนด้วยการทรมานไม่ไหว ซึ่งหลังจากนั้นคือความเสียหายล้มตายที่ Thomas Hart แลกกับการเอาตัวรอดของตัวเอง… ในขณะที่ William McNamara และ นายทหารคนสนิท ซึ่งวางแผนหลบหนีออกจากค่ายกักกันโดยไม่เลือกวิธีการ แม้จะต้องกล่าวหาและปล่อยให้นักบินผิวสีซึ่งเป็นพลเมืองชั้นสองในทัศคติของคนผิวขาวบางส่วน… ถูกป้ายสีกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร และ สุดท้ายต้องถูกประหาร โดยใช้เหตุการณ์ระหว่างดำเนินคดีมาเป็นโอกาสในการหลบหนีของตนและพวกพ้อง
เกียรติวินัยของทหารแนวหน้าในยามสงคราม และ ในยามที่ชีวิตตัวเองเจ็บปวดหวั่นกลัวจึงไม่ง่าย…
Hart’s War หรือ ชื่อที่ใช้ฉายในประเทศไทยคือ สงครามบัญญัติวีรบุรุษ… เป็นหนังที่เล่าเรื่องแบบ Stream Of Consciousness หรือ กระแสสำนึกของตัวละครเอกคือ Thomas Hart ซึ่งรับบทโดย Colin Farrell โดยมีดารานำเบอร์ใหญ่อย่าง Bruce Willis ผู้รับบท William McNamara พร้อมนักแสดงมีชื่อมากมาย… ซึ่งเป็นหนังสงครามที่ดูตื่นเต้นแบบหนังฆาตกรรม โดยไม่เน้นภาพสงครามในมิติทุกขเวทนาเหมือนหนังสงครามทั่วไป
Hart’s War อำนวยการสร้างโดย Gregory Hoblit โดยดัดแปลงจากงานเขียนของ John Katzenbach ในชื่อเดียวกัน… ใช้ทุนสร้างสูงถึง 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ล้มเหลวเรื่องรายได้ที่ทำเงินจาก Box Office ซึ่งออกฉายในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2002 ได้เพียง 33.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น… การออกโรงฉายในช่วงเจ็บปวดโศกเศร้าของชาวอเมริกันหลังเหตุการณ์ 911 หรือเหตุการณ์ 11 กันยายน ปี 2001 สดๆ นั่นเองที่กระทบรายได้ของหนัง… กรณีรายได้ของ Hart’s War ที่น้อยจึงไม่ได้หมายถึงเนื้อหาการเล่าเรื่องในหนังจะแย่เหมือนกรณีอื่น… โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นหนังที่สนุก และ ให้ทัศนคติที่ดีมากเรื่องหนึ่งทีเดียว
References…
