โดยส่วนตัวแล้วผมอยากหยิบประเด็น Homeschool หรือ การศึกษาโดยครอบครัว ซึ่งปลดปล่อยความซับซ้อนยุ่งยากของระบบการศึกษา ที่นับวันจะยิ่งไร้ประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในมิติของการเดินทางรับส่งและปัญหาการจราจร รวมทั้งความซับซ้อนยุ่งยากที่ไม่มีใครบอกได้ว่า กรณีการไปกับไม่ไปโรงเรียนก็เรียนได้ ถ้ามีโรคระบาด น้ำท่วม แผ่นดินไหวหรือสึนามิถล่ม
ออกตัวก่อนน๊ะครับว่า… ผมเองไม่ได้มีประสบการณ์ตรงเรื่อง Homeschool แม้แต่น้อย แต่ทราบว่ามีอยู่ในประเทศไทยมานานเหมือนอารยะประเทศอื่นๆ ซึ่งก็เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมอยากพูดถึง แต่ก็ยังรีรอไม่กล้าแตะ เพราะตัวเองก็ให้ลูกๆ เรียนในระบบ และตื่นตีห้าทุกเช้าของวันที่ลูกๆ ต้องไปโรงเรียนมาตลอด… ไม่เคยผ่านป้าย Homeschool ของใคร หรือแม้แต่รู้จักใครใกล้ชิดที่ทำ Homeschool เป็นเรื่องเป็นราว… เว้นแต่จะนับพี่ๆ เพื่อนๆ หลายท่านที่เรียนและผ่าน กศน. กันมากับวุฒิการศึกษาระดับมัธยม แล้วมาทันกันตอนมหาวิทยาลัย โดยไม่มีอะไรแตกต่าง
อีกครั้งก็นานแล้วที่ผมเคยพูดคุยกับนักธุรกิจในวงการ Tech Startup ท่านหนึ่ง ที่เคยขอให้ลูกๆ ออกจากโรงเรียนนานาชาติที่ค่าเรียนแพงหลักหลายแสนบาทต่อเทอม มาเรียนแบบ Homeschool เพื่อช่วยพ่อแม่ประหยัดค่าใช้จ่ายระหว่างบ่มเพาะธุรกิจเมื่อเกือบสิบปีมาแล้ว… กระทั่งเด็กๆ โตและธุรกิจปรับขนาดได้ใหญ่โตขึ้นด้วยมูลค่าสี่ห้าร้อยเท่าในไม่กี่ปีต่อเนื่อง หรือที่คนสตาร์ทอัพเรียกว่า Scale Up ได้สำเร็จ และ Exit ไปเรียบร้อยด้วยการขายหุ้นทั้งหมดให้นักลงทุนที่เป็นพันธมิตรคู่บุญกันมาแต่ต้น… พี่ท่านนี้ก็ส่งเด็กๆ ไปเรียนต่อต่างประเทศได้โดยไม่มีอะไรสะดุด
อย่างที่เรียนไปตอนต้นว่า Homeschool ในประเทศไทยไม่ได้เป็นของใหม่ แถมยังเป็นระบบที่มีมานาน โดยไม่ถูกพัฒนาและเผยแพร่องค์ความรู้ในกิจการการศึกษาโดยครอบครัว เพื่อให้เป็นทางเลือกกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่เจอข้อจำกัดใดๆ ส่วนใหญ่จึงยังต้องโอบอุ้มการได้ไปโรงเรียนของลูกหลาน โดยตัดภาระและวาระอื่นๆ ที่เป็นอุปสรรคของการได้ไปโรงเรียนของบุตรหลานทั้งหมด… ซึ่งในนั้นก็อาจจะเป็นโอกาสอื่นๆ ของครอบครัวด้วยเหมือนกัน
Homeschool หรือการศึกษาโดยครอบครัว ซึ่งมีทั้งจุดดี จุดเด่นและจุดด้อยไม่ต่างจากระบบโรงเรียน จึงขาดการพัฒนาจุดเด่นจนเห็นแต่จุดด้อยชัดเจน ทั้งๆ ที่ระบบการศึกษาในโรงเรียนก็มีจุดด้อยมากมายไม่ต่างกัน โดยเฉพาะกรณีการใช้ทรัพยากรมหาศาลถึงขั้นที่กระทรวงศึกษาธิการ กลายเป็นกระทรวงที่ได้งบประมาณสูงสุดมาอย่างยาวนาน โดยมีกรมกองด้านการจัดการศึกษาในระบบโรงเรียนหลายกรมกอง ได้งบประมาณส่วนใหญ่ไปดำเนินการ… ไม่เว้นแม้แต่กรมการศาสนาที่ผมไม่เห็นด้วยมานานที่ยังประคับประคองให้หน่วยงานนี้มีส่วนกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทางตรง ซึ่งหลักการผมคงไม่แย้งว่าดีไมดี… และด้วยความเคารพ แต่การดำเนินการที่ผมได้สัมผัสส่วนใหญ่… โรงเรียนวัดหลายแห่งออกไปโน้มน้าวขอเด็กในชนบทและเด็กๆ ในพื้นที่ทุรกันดารทั้งชายขอบดอยสูง ที่พ่อแม่และเด็กเองด้อยโอกาสอยู่แล้ว มาอุปการะเพื่อให้ “เลขสิบสามหลัก” ในทะเบียนบ้าน “ดึงเงินอุดหนุนการศึกษาจากเขตพื้นที่” มาจ่ายค่าจ้างครูและดูแลโรงเรียนที่ไม่ได้พัฒนาอะไร… ในขณะที่เด็กๆ เองต้องบวชเณรและบิณฑบาตหาอาหารด้วยตัวเอง
…ด้านดีก็มีหรอกครับ แต่ผมมองว่ามันขัดแย้งกับตำราส่งเสริมพัฒนาการยุคใหม่ที่ต้องเปลี่ยนแปลงกันได้แล้ว!!! เพราะไม่ว่าจะอย่างไร เด็กทุกคนคือทรัพยากรมนุษย์ของประเทศชาติ
ประเด็น Homeschool ที่ควรเปิดทางและพัฒนาขนานไปกับระบอบการศึกษาแบบโรงเรียน จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายมากในมุมมองของผม… ถ้าเพียงแค่ให้โอกาสกับ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หรือ กศน. สักครึ่งหนึ่งของโอกาสที่สำนักงานการศึกษาสายอื่นๆ ได้งบประมาณและนโยบายสนับสนุนไปบ้าง… ซึ่งเราได้เห็นวิกฤตโควิดที่ช่วยตอกย้ำ “การขนเด็กๆ มารวมกันตอนเช้าและรับกลับตอนเย็น… ไม่ได้จำเป็นเลยในมิติการศึกษา การไม่ไปโรงเรียนก็ปรับเพื่อให้เรียนได้ และการไปโรงเรียนไม่ใช่หนทางเดียวที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาเด็กๆ ให้กลายเป็นทรัพยากรมนุษย์ของชาติเลย”
เรียนก่อนครับว่า… ผมไม่ได้ต่อต้านระบอบโรงเรียน เพียงแค่อยากให้โอกาส “ทุกครอบครัวได้มีทางเลือกอื่นเรื่องการศึกษา โดยเฉพาะกรณี Homeschool ที่ควรเป็นทางเลือกหนึ่งที่มีทั้งศักดิ์ศรีและคุณภาพเป็นที่ยอมรับ” เพื่อให้เป็นทางเลือกหลักอีกหนึ่งทาง… ซึ่งก็สุดแต่อัธยาศัยของพ่อแม่ผู้ปกครองว่าจะปลงใจกับรูปแบบไหนอย่างไร
เวบไซต์ homeschoolnetwork.org ซึ่งเคลื่อนไหวเรื่อง Homeschool มานานพอสมควร และผมแวะเวียนไปหาความรู้เพิ่มเติมมาระยะหนึ่ง มีข้อมูลมากมายในการขับเคลื่อนกลไกการศึกษาผ่าน Homeschooling Model ในประเทศไทย… ซึ่งผมชอบมากกับคำแนะนำเรื่องการเริ่มต้นที่ชัดเจนว่า… เริ่มได้เลย ถ้าไปโรงเรียนอยู่ก็แค่หยุดไป ถ้ายังไม่ไป ก็แค่ไม่ต้องไป! การตัดสินใจว่าจะอยู่ในโรงเรียนต่อหรือจะออกมาเลย เป็นหน้าที่ของครอบครัวนั้นๆ โดยสิทธิคือ… ทำได้ ออกได้ หยุดเรียนได้เลย ทำได้เลยและถูกกฎหมายทุกอย่าง ตำรวจไม่จับ และการศึกษาโดยครอบครัวมีระบบรับรองคุณวุฒิชัดเจน ใช้ประกอบการศึกษาต่อและได้รับวุฒิการศึกษาต่อเนื่องสูงๆ ขึ้นไปได้
วันนี้เกริ่นๆ กันเท่านี้ก่อน… ตอนหน้ามาดูรายละเอียดการตั้ง Homeschool กันครับ ทั้งมิติของพ่อแม่ผู้ปกครองและมิติของท่านที่อยากเปิดบ้านทำ Homeschool เล็กๆ ให้บุตรหลานตัวเองหรือคนรู้จัก หรือด้วยเหตุผลอื่นใดก็ตามแต่… โดยเฉพาะแนวทางในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานนอกระบบโรงเรียน ซึ่งมีระบบการจดทะเบียนจัดการศึกษาโดยครอบครัว และยังขอรับเงินอุดหนุนการศึกษาได้ไม่ต่างจากระบบโรงเรียนอีกด้วย
ถ้าบทความนี้ถูกใจท่านหรือไม่ถูกใจท่าน… ขอความกรุณาแชร์ต่อด้วยครับ ผมอยากได้ Feedback จากหลายๆ ความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ไว้ใต้บทความโดยตรงได้เลยไม่ว่าท่านจะเห็นด้วยหรือเห็นต่าง อยากตำหนิติติงยิ่งยินดีรับฟังมาก หรือจะทักมาทางไลน์ส่วนตัวผมโดยตรงก็ยินดี ID: dr.thum… ขอบคุณล่วงหน้าครับ!
References…