การเป็นผู้นำโดยนัยยะของการทำงานและองค์กรนั้น ในทางปฏิบัติจะหมายถึงการเป็นผู้มีเพื่อนร่วมงานที่รอรับคำสั่ง และ รอการสอนงาน ซึ่งผู้นำต้องรับผิดชอบทั้งก่อนและหลังการสั่งกับการสอนเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในสถานะลูกทีม… ซึ่งจะเรียกว่าลูกน้อง หรือ พนักงาน หรือ ลูกทีมก็ไม่มีอะไรต่างกันในทางปฏิบัติ
ส่วนประเด็นรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งงาน และ การสอนงานของหัวหน้าหรือผู้นำ กับ ลูกน้องหรือลูกทีมนั้น… ความหมายและรายละเอียดของการสั่งงาน และ การสอนงานจะแตกต่างจากรูปแบบความสัมพันธ์ครูนักเรียน รวมทั้งผู้ปกครองกับลูกหลานค่อนข้างชัด… เพราะผู้นำทีมจำเป็นจะต้องแสดงบทบาทการสั่งและการสอนแบบติชมบนความสัมพันธ์อย่างมืออาชีพ หรือ Professional Relationships… ซึ่งจะมีทั้งการติชมแบบ Feedback หรือ การติชมย้อนกลับ และ Feedforward หรือ การชี้แนะโน้มนำ ซึ่ง Kevin Eikenberry เจ้าของ Kevin Eikenberry’s Four Types Of Feedback Model และ ผู้เขียนหนังสือขายดีเกี่ยวกับภาวะผู้นำมากกว่า 10 เล่ม ได้แบ่งประเภทของการติชมเอาไว้ 4 แบบคือ
- Negative Feedback หรือ คำติชมเชิงลบ… จะเป็นคำติชมถึงสิ่งที่เคยทำมาแล้ว แต่สมควรต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไข
- Positive Feedback หรือ คำติชมเชิงบวก… จะเป็นคำชื่นชมถึงสิ่งที่เคยทำมาแล้ว โดยผลลัพธ์หรือผลสำเร็จออกมาดี และหรือ สมควรนำกลับมาทำซ้ำอีก
- Negative Feedforward หรือ ข้อชี้แนะเชิงลบ… จะเป็นการพูดถึงสิ่งที่ไม่ควรจะต้องทำ หรือ ไม่ควรจะให้เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งข้อเท็จจริงที่ได้จาก Negative Feedback และหรือ ข้อมูลจากการวิเคราะห์สังเคราะห์แบบต่างๆ
- Positive Feedforward หรือ ข้อชี้แนะเชิงบวก… จะเป็นการโน้วน้าวชี้นำถึงสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งข้อเท็จจริงที่ได้จาก Positive Feedback และหรือ ข้อมูลจากการวิเคราะห์สังเคราะห์แบบต่างๆ
สิ่งสำคัญใน Kevin Eikenberry’s Four Types Of Feedback Model จะแนะนำให้ผู้นำทุกคนใช้ภาวะผู้นำผ่าน “การรักษาสมดุลย์ของ Feedback และ Feedforward ทั้งที่เป็น Positive และ Negative” โดยเน้นที่การให้ข้อชี้แนะเชิงบวก หรือ Positive Feedforward ซึ่งจะถูกนำมาเป็นเนื้อหาสาระในการสั่งงานและสอนงาน… ซึ่งผู้นำต้องก้าวนำหน้าลูกทีมอย่างชัดเจนอีกวาระหนึ่ง
ปัญหาก็คือ… การทำ Feedback และ Feedforward โดยต้องรักษาสมดุลย์การติชมเพื่อให้เกิดปฏิกิริยากับบุคคลที่เกี่ยวข้องในทางสร้างสรรค์นั้น… ผู้นำต้องเป็นงาน หรือ Skillfully ถึงขั้นสามารถ “ติชมอย่างจริงใจ” ได้ในแบบที่เรียกว่า Honest Feedback โดยยังคงสื่อสารถึง Feedback และ Feedforward ทั้งที่เป็น Positive และ Negative ได้อย่างครบถ้วน และ สมดุลย์… รวมทั้งหลีกเลี่ยงการติชมแบบฟังดูดีแต่ไม่มีอะไรให้โฟกัส เช่นการพูดว่า… ทีมของเราทำงานยอดเยี่ยมและทำกำไรสูงกว่าปีที่แล้วยี่สิบเปอร์เซนต์ได้อย่างน่าชื่นชม… ซึ่งไม่ได้บอกว่ายอดเยี่ยมเพราะอะไร และ ต่อไปเราจะทำยังไงจึงจะยอดเยี่ยมกว่านี้ได้อีก
การทำ Honest Feedback จึงต้องมีการเตรียมตัวของผู้นำก่อนจะ “ติชม และหรือ คืนข้อมูล” ให้กับทีม… ซึ่งลูกทีมจะต้องรู้สึกได้ว่าเป็นการติชมอย่างสร้างสรรค์ โดยจะต้องมีส่วนผสมของ Feedback และ Feedforward ทั้งที่เป็น Positive และ Negative อยู่ในสาร หรือ Message ที่บอกออกไป เพื่อไม่ให้คนรับสาร หรือ ลูกทีมรู้สึกเป็นอย่างอื่นนอกเหนือจากการโฟกัส Positive Feedforward หรือ ข้อชี้แนะเชิงบวก… ซึ่งเป็นอนาคตของทุกคน
References…