จบไปแล้วกับงานงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯครั้งที่ 41 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 กันยายน พ.ศ. 2562 ณ สยามพารากอน โดยสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย ซึ่งเป็นงานประจำของวงการอสังหาริมทรัพย์ที่จัดต่อเนื่องมาตลอด จนกลายเป็นกระดูกสันหลังของวงการอสังหาริมทรัพย์ไปแล้วก็ว่าได้
ช่วงนี้ผมยังวุ่นวายอยู่กับการพัฒนาแพลตฟอร์มในระบบนิเวศน์ Fork Play อย่างมุ่งมั่นต่อเนื่องเหมือนช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับคาดเดาว่า งานมหกรรมบ้านและคอนโดรอบนี้คงเงียบเหงาไปกับเศรษฐกิจและปัจจัยหลายอย่าง ก็เลยรอฟังข่าวอย่างเดียวดีกว่า… ยิ่งได้อ่านข่าวที่เวบไซต์กรุงเทพธุรกิจรายงานข่าวแล้ว ก็ได้แต่ส่งกำลังใจถึงทุกท่านในวงการอสังหาริมทรัพย์ครับ… เนื้อข่าวจากกรุงเทพธุรกิจบอกว่า

นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยถึงผลการจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 41 ระหว่างวันที่ 13-15 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปี 2562 โดยพบว่า ยอดจองใกล้เคียงกับในช่วงต้นปีที่มีการจัดงานไปเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจชะลอตัวและกำลังซื้อหดตัว ดังนั้นการประคับประคองให้สถานการณ์ยอดจองบ้านและคอนโดไม่ตกไปมากกว่าในช่วงการจัดงานต้นปีถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
“ในช่วงเดือนมี.ค.จัดงานมหกรรมบ้านฯ เป็นช่วงก่อนประกาศใช้มาตรการคุมเข้มสินเชื่อ(LTV) ส่วนใหญ่เป็นคอนโดเพื่อลดผลกระทบของมาตรการแอลทีวี แต่การจัดงานช่วงปลายปีที่เพิ่งจบไป ยอดจองส่วนใหญ่เป็นแนวราบ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ซื้ออยู่จริง หลังจากตลาดต่างชาติหดตัว ซึ่งในช่วงนี้ถือเป็นการอัดแคมเปญหนักก่อนสิ้นปี ที่ทุกค่ายอสังหาฯ ต่างเทหมดหน้าตักก็ยอดขายเท่านี้ สะท้อนให้เห็นว่าภาพรวมกำลังซื้อชะลอตัวจริง”
เขายังกล่าวต่อว่า สถานการณ์ในปัจจุบัน ผู้ประกอบการบางราย มีปัญหาถือซัพพลายที่สร้างเสร็จเหลือขาย (Inventory)ค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่ขายไม่หมด จะต้องแบกรับต้นทุนค่าใช้จ่าย รวมถึงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่จะมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2563
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบการ ยังหวังรอมาตรการกระตุ้นตลาดในช่วงปลายปีจากภาครัฐอีกรอบ ซึ่งปัญหาอสังหาฯในปัจจุบันเป็นผลมาจากภาพรวมเศรษฐกิจที่กำลังซื้อลดลง ประกอบกับมาตรการแอลทีวี ทำให้สถาบันการเงินค่อนข้างเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลทำให้ผู้ซื้อบ้านถูกปฏิเสธสินเชื่อมีอัตราสูงขึ้น
ด้านนายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)กล่าวว่า ในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมา อสังหาฯค่อนข้างติดลบค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับปี 2561 โดยคาดการณ์ยอดโอนกรรมสิทธิ์ในจำนวนหน่วยติดลบ 7.7% คิดเป็นมูลค่าติดลบ 2.7%
อย่างไรก็ตาม การติดลบของภาคอสังหาฯ เป็นการปรับฐานที่อัตราติดลบกลับไปใกล้เคียงกับช่วงก่อนที่จะเติบโตคือในปี 2560 แต่สิ่งที่ต้องติดตามต่อไปคือจะมีการติดลบต่อเนื่องหรือไม่ หรือทรงตัวและปรับตัวและเติบโตต่อไปได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัยทั้งปัจจัยภายนอก เศรษฐกิจโลก และปัจจัยภายใน รวมไปถึงการกระตุ้นการตลาดจากภาครัฐ
เขายังกล่าวต่อว่า ตลาดคอนโด ติดลบค่อนข้างสูงหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนโดยคอนโดในไตรมาสที่ 1 ติดลบ 14%ไตรมาส 2 ติดลบ 20%ไตรมาสที่ 3 ติดลบ 14%และคาดว่าไตรมาสที่ 4 จะติดลบ 20% โดยปีนี้มีจำนวนหน่วยผังเหลือขาย หรือ สินค้าที่ทั้งวางแผนก่อสร้างและเปิดตัวและสร้างเสร็จสูงกว่าปีที่ผ่านมา จำนวน 1.5 แสนยูนิต ขณะที่ปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 1.3 แสนยูนิต
“ในปัจจุบันมีสินค้าเหลือขายในตลาดจำนวนมาก ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวโดยการเลื่อนเปิดตัว หรือเปิดตัวระหว่างก่อสร้างมีการขายดาวน์ไปก่อน ขณะเดียวกันก็เร่งขายโครงการเก่าให้หมดไม่เช่นนั้นจะเพิ่มต้นทุนค่าใช้จ่ายส่วนกลาง และได้รับเงินคืนกลับมาช้า”
ส่วนข้อมูลจากคุณชูรัชฏ์ ชาครกุล ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่41 เปิดเผยว่า การจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่41ระหว่าง12-15ก.ย.2562ที่ผ่านมา มียอดผู้เข้าชมงานใกล้เคียงจากการจัดงานครั้งที่แล้ว ขณะที่ยอดจองซื้อภายในงานมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ10% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท แบ่งเป็น
- โครงการทาวน์เฮ้าส์ 37%
- คอนโดมิเนียม 34%
- บ้านเดี่ยว 20%
- บ้านแฝด 6%
- และที่ดินเปล่ารวมถึงอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ อีก 3%
- ยอดขอสินเชื่อของสถาบันการเงินในช่วงการจัดงานมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท
ข้อมูลคนเข้าชมงานประกอบด้วย อายุของกลุ่มที่เข้าชมงานอยู่ระหว่าง
- 21-30 ปี 39%
- 31-40 ปี 31%
- 41-50 ปี 16%
โดยผู้เข้าชมงานจะมีช่วงรายได้ระหว่าง
- 30,000 – 50,000 บาท 28%
- 10,000 – 30,000 บาท 22%
- 50,000 – 70,000 บาท 16%
ขณะที่ผู้เข้าชมงานส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อจริง โดยกว่า
- มีความต้องการที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในระยะเวลา 1-3 เดือน 24%
- ต้องการจะซื้อที่อยู่อาศัยในระยะเวลา 1 ปี 23%
โดยระดับราคาที่อยู่อาศัยที่สนใจคือ
- ราคาที่อยู่อาศัย 2–2.99 ล้านบาท 29%
- ราคาที่อยู่อาศัย 1-1.99 ล้านบาท 22%
- ราคาที่อยู่อาศัย 3-3.99 ล้านบาท 18%
ประเภทโครงการที่ได้รับความสนใจมากทสุด
- โครงการประเภทคอนโดมิเนียม จำนวน 40%
- โครงการประเภทบ้านเดี่ยวจำนวน 35%
- โครงการทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 15%
ก็… ถือว่าไม่มีข่าวดีมากมาย แต่ก็ไม่เลวร้ายจนเงียบเหงาครับ ที่จริงข่าวดีกับโอกาสก็เป็นคนละเรื่องกัน ผมก็ชี้ไม่ถูกว่าโอกาสมีอยู่ส่วนไหนของสถาณการณ์แบบนี้ สภาพและสถาณการณ์แบบนี้ โดยธรรมชาติของโอกาส ก็มักจะปนๆ อยู่ในวิกฤติเสมอ
สนใจและมกมุ่นกับอสังหาริมทรัพย์… ลองค้นๆ ดูครับ!
อ้างอิง
- https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/847414
- http://thairealestate.org/content/detail/678/%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%AF-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-41-12-15-%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99-%E0%B8%9E%E0%B8%A8-2562-%E0%B8%93-%E0%B8%AA%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%99-