ชื่อ Ernest Hemingway หรือ เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์… นักข่าว นักเขียนและวีรบุรุษสงคราม แม้ไม่ได้เข้าสนามรบในฐานะทหารแนวหน้าในสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่วีรกรรมพลขับอาสาหน่วยกาชาด ที่เฮมิงเวย์ถูกส่งไปช่วยในอิตาลี ในขณะที่เฮมิงเวย์อายุเพียง 19 ปี… ก็สร้างชีวิตอันเต็มไปด้วยสีสันและงานสร้างสรรค์ ของนักเขียนนิยายและเรื่องสั้น ที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลกในศตวรรษที่ 20 ในเวลาต่อมา
เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์อาสาไปช่วยกาชาดเพราะสมัครเป็นทหารไม่ผ่านจากปัญหาสายตา ที่กระทบกระเทือนจากการต่อยมวยโรงเรียน ตอนเรียนระดับมัธยม… แต่พื้นฐานจากเด็กบ้านป่า รักการผจญภัย พร้อมทักษะยิงนกตกปลาล่าสัตว์ ทำให้เฮมิงเวย์อยากไปสัมผัสสงครามสักครั้ง แม้ได้อยู่แนวหลังก็ตาม… ที่อิตาลี เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ผู้ร่าเริงเปิดเผย คบหากับทหารชาวอิตาลีและผูกมิตรไปทั่ว ความซุกซนและอยากรู้อยากเห็นของเฮมิงเวย์ ทำให้เขาขอตามเพื่อนทหารชาวอิตาลี ไปดูแนวรบด้วย… และวันนั้นก็เป็นวันที่แนวรบด้านนั้นถูกโจมตีจากปืนคอและปืนใหญ่จนละลายทั้งฐาน… เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาของเขาข้างหนึ่งมีสะเก็ดระเบิดจากกระสุนปืนคอฝังเข้าเนื้อจนพรุนไปหมด แต่เขาก็แบกร่างที่บาดเจ็บสาหัสของเพื่อนทหารชาวอิตาลีกลับมาด้วย
การรักษาบาดแผลที่ขาของหนุ่มน้อยเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ พบการติดเชื้อและเนื้อตายจนหมอลงความเห็นว่าต้องตัดขารักษาชีวิต แต่พยาบาลชื่อ Agnes von Kurowsky หรือแอกเนส ช่วยต่อรองกับหมอผ่าตัดและขอโอกาสให้เธอได้ใช้ความพยายาม ดูแลการติดเชื้อที่ขาของเฮมิงเวย์หนุ่มน้อยอนาคตไกลคนนี้ดูก่อน… ซึ่งคุณหมอก็ใจอ่อนเพราะตกหลุมรักพยาบาลแอกเนส และขอแลกด้วยการต้องไปเที่ยวกับหมอในวันหยุด
ความพยายามของแอกเนส ทำให้เฮมิงเวย์ไม่ต้องถูกตัดขาในที่สุด แถมยังได้เหรียญกล้าหาญจากอิตาลี ในวีรกรรมแบกทหารบาดเจ็บกลับมาด้วยทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บ… แถมด้วยความผูกพันธ์ฉันท์หนุ่มสาวกับพยาบาลที่อายุมากกว่าเขา 7 ปี ในขณะที่ แอกเนสเองก็ยังคบหาอยู่กับหมอประจำหน่วยฉันท์คู่รักอยู่ จนกลายเป็นรักสามเส้าขึ้น
เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ถูกส่งกลับอเมริกาบ้านเกิด พร้อมกับความสัมพันธ์ลึกซึ้งก่อนจากกับพยาบาลที่เขาหลงรักหัวปักหัวปำ และสัญญารักที่จะแต่งงานกันเมื่อสงครามสิ้นสุด…
แต่แล้ว… เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ก็ได้รับจดหมายจากแอกเนสเพื่อขอเลิกลา เฮมิงเวย์คนอกหักจึงเก็บตัวเขียนหนังสือและซึมเศร้าอย่างเดียวดาย ในขณะที่แอกเนสเองก็สับสนระหว่างการแต่งงานออกเรือนไปกับนายแพทย์อนาคตไกล หรือย้อนกลับไปตามหาเสียงเรียกร้องจากหัวใจถึงรักต่างวัยที่ไม่เหมาะสม… เธอตัดสินใจปฏิเสธการแต่งงานกับนายแพทย์คนนั้น และเดินทางมาหาเฮมิงเวย์ถึงหน้าบ้านกลางป่าของเขา
ชายผู้เศร้าสร้อยจากหัวใจที่แตกสลาย ตั้งแต่ได้รับจดหมายฉบับนั้น… ไม่ยอมแม้แต่จะเปิดประตูออกมาทักทายหญิงสาวที่เขาเคยรักล้นใจ!
เรื่องราวรักแรกของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ถูกทำเป็นภาพยนต์เรื่อง In Love and War ออกฉายในปี 1996 นำแสดงโดย Chris O’Donnell แสดงเป็นหนุ่มน้อยเฮมิงเวย์ โดยมี Sandra Bullock แสดงเป็นแอกเนส ฟอน คูโรว์สกี้… อำนวยการสร้างและกำกับการแสดงโดย Richard Attenborough… หนังออกฉายก่อนคริสต์มาสปี 1996 ทำรายได้พอตัวที่ 25.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
In Love and War ถือเป็นหนังรักโรแมนติกที่ถ่ายภาพได้สวยมากเรื่องหนึ่ง แถมได้นักแสดงหลักฝีมือขั้นเทพทั้ง Chris O’Donnell และ Sandra Bullock แม้พล๊อตหนังจะมากับโครงเรื่องแบบนิยายน้ำเน่า แต่ทั้งหมดนั้นคือเรื่องจริงของนักเขียนรางวัลโนเบลอย่าง เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ซึ่งเป็นการยืนยันว่า… ชีวิตจริงก็เหมือนนิยาย แม้แต่ชีวิตคนเขียนนิยายก็ยังเหมือนนิยาย
โดยส่วนตัวดูหนังเรื่องนี้เพราะเป็นหนังชีวประวัติของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ ซึ่งครูการเขียนของผมท่านหนึ่งแนะนำให้ศึกษางานของเฮมิงเวย์ในสมัยที่ผมหัดเขียนใหม่ๆ แต่ผมก็ไม่ได้ปลื้มงานชิ้นไหนของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์เป็นพิเศษ รวมทั้งชีวิตส่วนตัวของเขาด้วย แม้จะเข้าใจภาวะซึมเศร้าที่ชายคนนี้ต้องทนทุกข์จากความอ่อนไหว ซึ่งเป็นอารมณ์ของศิลปินสุดโต่งหลายๆ คน ที่เค้นงานออกมามากมายด้วยความเครียด จนสะสมผลักดันตัวเองเข้าสู่ด้านมืด… เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ก็เช่นกัน เขาพาตัวเองไปจบชีวิตด้วยการทำอัตวินิบาตกรรม หรือ Suicide ด้วยปืนสั้นในวันที่ 2 กรกฎาคม ปี 1961 อายุ 61 ปี ณ บ้านพักในเมือง Ketchum รัฐ Idaho ระหว่างป่วยเรื้อรังจนพักไม่ได้… ผลงานมากมายของเขาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ยังมีขายและบรรจุไว้ตามห้องสมุดทั่วไปอยู่ในหลายภาษาทั่วโลก… รวมทั้งภาษาไทย
References…
