innovation team player

Innovation and Team Development… ทีมสร้างนวัตกรรม

ความมุ่งมั่นระดับองค์กรเพื่อมองหา S-Curve ใหม่ ให้กิจการเข้าถึงการเติบโตรอบใหม่ ในโอกาสที่กระแส Digital Disruption กดดันให้ทุกภาคส่วนต้องเปลี่ยนแปลงโดยปริยายอยู่แล้วในช่วงนี้ ดูเหมือนจะมีเคลื่อนไหวตั้งแต่ระดับปัดฝุ่นวิสัยทัศน์ ไปจนถึงริเริ่มสิ่งใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยความท้าทายล้วนๆ ก็มีให้เห็นส่งท้ายปี ผ่านความเคลื่อนไหวการหาคนนวัตกรรมตั้งแต่หา Talent ไปจนถึงที่ปรึกษาก็มี

ตัวอย่างความพยายามของ AirAsia ที่รายได้จากธุรกิจการบินหายไปจนกิจการซวนเซ ตั้งแต่วิกฤตโควิดจู่โจมใส่การท่องเที่ยวและการเดินทาง จนเครื่องบินทุกลำต้องจอดสนิทไปทั้งหมดนั้น… ข่าวล่าสุดกับความพยายามที่จะหา S-Curve ด้วยโมเดล OTA หรือ Online Travel Agency ซึ่งเป็นโมเดลสร้างโอกาสให้ AirAsia อีกครั้ง… ทางข้างหน้าแม้ยังอีกยาวไกล แต่ที่ชัดเจนแล้วตอนนี้คือ… ลุกได้และไปต่อไม่รออะไรอีกแล้ว… ซึ่งก็เป็นตัวอย่างการมองหาโมเดลธุรกิจใหม่ที่น่ายกย่องอย่างยิ่ง

นอกจาก AirAsia แล้ว… ความเคลื่อนไหวจากธุรกิจอื่นๆ อีกมากมายต่างก็ขยับหาอะไรใหม่ๆ จนความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงเกิดเป็นกระแสที่ชัดเจนจากการมองหา “นวัตกรรมช่วยสร้างการเติบโตของรายได้ให้องค์กร” 

ข้อมูลในมือผมตอนนี้ มีการแต่งตั้งที่ปรึกษาไปจนถึงการประกาศรับสมัครมือดีมีความสามารถ ซึ่งเป็นสัญญาณการจ้างงานรอบใหม่ที่ชัดเจนว่า… ธุรกิจมากมายกำลังคิดสร้างนวัตกรรม และกำลังสร้างทีมพัฒนานวัตกรรมให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ใหม่กันอย่างคึกคัก

ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับหลายๆ ท่านในประเด็นการสร้างทีมนวัตกรรมมาบ้าง และเรียนตามตรงว่า… ในบางความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนานวัตกรรม ยังน่าเป็นห่วงในประเด็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เกี่ยวกับการลงทุนกับเทคโนโลยีและการหาคนมาใช้เทคโนโลยี

ประเด็นเป็นแบบนี้ครับ… เทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมก็จริง แต่ประสิทธิภาพที่เทคโนโลยีจะทำงานคืนเงินลงทุนและเพิ่มกำไรให้กิจการ ยังไงก็ถือว่าเป็นส่วนที่จริงกว่าและต้องคำนึงก่อนเสมอ… 

การคิดถึงนวัตกรรมทั้งแบบ “ซื้อมาใช้และทำขึ้นใช้” จึงควรเริ่มต้นที่คนก่อนเทคโนโลยีเสมอในความเห็นของผม… การซื้อของไฮเทคมากองอวดกันภายในแต่ไม่มีใครใช้เป็นสักคนหรือแม้แต่ไม่มีใครรู้ว่าจะใช้ประโยชน์ของไฮเทคเหล่านั้นยังไง… จึงเป็นตลกร้ายของวงการนวัตกรรมที่เกิดขึ้นให้เห็นเรื่อยๆ กับองค์กรที่… คนเยอะงบเยอะและกลัวล้าหลังเยอะ!!!

ประเด็นแรกที่อยากพูดถึงเกี่ยวกับการซื้อของใหม่ไฮเทคมาใช้ หรือเพียรสร้างของใหม่ขึ้นใช้… ซึ่งผมมองว่าต้องริเริ่มโดยคนกลุ่มหนึ่ง พร้อมวิสัยทัศน์ที่แจ่มชัดว่า ภาพเป้าหมายสุดท้ายจะเห็นอะไรเป็นอย่างไรในอนาคต

ผมกำลังพูดถึงคนหลายๆ คนที่จะมารวมกันเป็นทีมเพื่อสร้างนวัตกรรม… วิสัยทัศน์หรือ Vision และชุดความคิดหรือ Mindset ที่จะสร้างและใช้นวัตกรรมที่ชัดเจนตรงกันก่อน… คำถามที่สำคัญในการกำหนด Vision and Mindset เพื่อขับเคลื่อนก็คือ… จะเอานวัตกรรมไปแก้ปัญหาอะไร?

นั่นแปลว่า… สมาชิกทีมหนึ่งคนอย่างน้อยต้องรู้จักและเข้าใจปัญหาอันนั้นอย่างดีก่อน และข้อควรระวังคือ ต้องไม่ดึงคนที่รับรู้การมีอยู่ของปัญหาแค่ระดับผิวเผิน มาทำหน้าที่แกะปัญหาให้สมาชิกทีมเข้าใจ โดยไม่เปิดรับการทำ Identifying Pain Points ที่ชัดเจน… กับดักสำคัญที่น่ากลัวที่สุดในเรื่องนี้ก็คือ ผู้บริหารหรือหัวหน้าที่อยากพัฒนานวัตกรรมแก้ปัญหาอันนี้นี่แหละ ที่เข้าใจว่าตัวเองรู้ปัญหาดี ซึ่งหลายกรณีก็รู้และเข้าใจจริง แต่หลายกรณีท่านรู้ไม่จริงหรอกครับ ตราบเท่าที่ท่านไม่ได้เจ็บปวดกับปัญหาโดยตรง หรือเห็นคนเจ็บปวดจากปัญหานั้นจนท่านอยากช่วยแก้ไขจริงๆ

ทีนี้ก็มาถึงเรื่องใหญ่คือการหาผู้เล่นมาเข้าทีม… ผมจงใจใช้คำว่า “ผู้เล่น” เพื่อให้ท่านเห็นภาพคล้ายกับทีมกีฬา ที่ต้องการผู้เล่นที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ มาร่วมทีมเพื่อทำหน้าที่ต่างๆ… คุณสมบัติและความสามารถของสมาชิกทีมจึง “ควรจะหลากหลาย” จนเมื่อรวมกันเป็นทีมแล้วเห็นภาพว่ามีจุดแข็งเพียงพอที่จะไขว่คว้าวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้นั้นได้

โดยประสบการณ์ส่วนตัว… การสร้างทีมและหาคนเข้าทีมนวัตกรรมไม่ถือว่าง่าย แต่ที่ยากกว่าคือการบริหารและรักษาทีมนวัตกรรมให้อยู่ร่วมกันภายใต้บรรยากาศสร้างสรรค์จนมีผลงาน… ซึ่งหลายกรณีอ่อนไหวจนคนที่ขาดความเข้าใจเรื่องการพัฒนานวัตกรรม ทำพังเข้าขั้นล้มเหลวโดยไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยนอกจาก… เข็ดและเก็บความล้มเหลวนั้นไว้บอกคนอื่นว่า… พี่ทำมาหมดแล้ว!!!

ประเด็นสำคัญของการทำทีมนวัตกรรมเพื่อพัฒนานวัตกรรมหรืออะไรใหม่ๆ จึงต้องการความเข้าใจขั้นลึกซึ้งว่า… ใหม่หมายถึงยังไม่เคยมีมาก่อน นั่นแปลว่าบรรยากาศการสื่อสารและความสัมพันธ์ภายในทีมนวัตกรรมที่หวังผลการเปลี่ยนแปลงด้วยแนวทางใหม่… ต้องการความพร้อมรอบด้านเพื่อการเปลี่ยนแปลงถึงขั้นต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เพิ่มเติมเสมอ

Susan Wojcicki สาวแกร่งผู้คลุกคลีอยู่กับทีมนวัตกรรมอันดับต้นๆ ของโลกในฐานะ CEO ของ YouTube เคยเผยแพร่แนวทางพัฒนานวัตกรรมเอาไว้ในบทความชื่อ The Eight Pillars of Innovation ซึ่งประเด็น 8 เสาหลักนวัตกรรมของ Susan Wojcicki ถือเป็นแนวทางหลักที่นวัตกรระดับผู้นำเอามาปรับใช้กันเป็นส่วนใหญ่… 8 เสาที่ว่าประกอบไปด้วย

  1. Have A Mission That Matters หรือ ต้องเป็นภารกิจที่มีความสำคัญ
  2. Think Big But Start Small หรือ คิดใหญ่แต่เริ่มให้เล็ก
  3. Strive For Continual Innovation, Not Instant Perfection หรือ มุ่งสร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ไม่เสียเวลาเรื่องความสมบูรณ์แบบ
  4. Look For Ideas Everywhere หรือ หาไอเดียจากทุกแหล่งแห่งหน
  5. Share Everything หรือ แบ่งปันทุกอย่างกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
  6. Spark With Imagination, Fuel With Data หรือ จุดประกายด้วยจินตนาการ และขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
  7. Be Platform หรือ ไปให้ถึงการเป็นแพลตฟอร์ม หรือสร้างสิ่งที่คนจำนวนมากค่อนโลกได้ประโยชน์และต้องการ
  8. Never Fail To Fail หรือ อย่าล้มเหลวเพื่อล้มเลิกไปตลอดกาล

ผมตัดมาสั้นๆ เฉพาะหัวข้อจาก The Eight Pillars of Innovation ของ Susan Wojcicki ในฐานะ CEO ของ YouTube ประมาณนี้ครับ… ซึ่งทั้ง 8 ข้อที่ว่านี้ สามารถนำไปสร้างวัฒนธรรม หรือ เขียนเป็นค่านิยมของทีมนวัตกรรมที่ท่านอยากสร้างและเก็บเกี่ยวผลงานของพวกเขาได้… ลองพิจารณาดูครับ!!!

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest
Tumblr

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *