ถ้าท่านไม่โลกสวยเกินไป วิกฤตโรคระบาดคราวนี้ทำลายโครงสร้างรายได้ตั้งแต่ระดับชาติ ที่เก็บภาษีได้พร่องไปเยอะ จนต้องวางแผนกู้เงินสู้วิกฤตกันทุกประเทศ… และโครงสร้างรายได้มนุษย์เงินเดือน ที่เหลือคนยังมีรายได้เท่าเดิมไม่ถูกหักคือคนส่วนน้อยมากๆ ส่วนที่เหลือกระทบหมดตั้งแต่ถูกลดเงินเดือนไปจนถึงตกงานโดยปริยายเพราะกิจการของนายจ้าง สูญไปกับวิกฤติไม่ต่างกัน
ผมมีคนรู้จักที่ได้รับผลกระทบทุกแบบ รวมทั้งคนที่เงินเดือนเหลือเท่าเดิม แต่วังเวงและจิตตกเพราะงานไม่เหมือนเดิมและรู้สึกว่าเวลาแต่ละวันช่างยาวนาน เพราะไม่มีเพื่อนที่ทำงานให้เดินไปทักยามว่าง หรือเคยใช้เวลาไปกับรถติดและการเดินทาง จนไม่ชินกับเวลาที่เหลือ… ส่วนท่านที่ยังไม่เสียงาน แต่เงินเดือนและรายได้ลดลงเพราะกิจการของนายจ้างอยู่ในโหมดประคับประครอง และยังต้องทำงานจากที่บ้าน ไม่มีเพื่อนที่ทำงานให้เดินไปทักยามว่าง หรือเคยใช้เวลาไปกับรถติดและการเดินทาง จนไม่ชินกับเวลาที่เหลือเหมือนกัน
ที่น่าแปลกใจก็คือ คนตกงานกลับเคว้งน้อยกว่าคนไม่ตกงาน โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ตกงานแต่กำลังลุ้นว่า “อาจจะตกงาน” ซึ่งหลายท่านที่ผมรู้จักเข้าขั้นซึมเศร้าไปแล้วก็มี… ซึ่งคนกลุ่มนี้จะครึ่งๆ กลางๆ จนทำอะไรไม่ถูกก็มี
แน่นอนว่า คำชวนเดียวที่ผมบอกได้คือ ชวนทำธุรกิจยามว่าง ซึ่งหลายท่านที่สนใจอยู่แล้วก็ตอบรับอย่างดี แต่หลายกรณีก็ “ติดกรอบแนวคิดการทำธุรกิจและการลงทุนทำธุรกิจ” ที่ “คิดไกลจากโมเดลรายได้” จนต้องโน้มน้าวพูดคุยกันให้เข้าใจในหลายๆ ประเด็น
การจะเป็นผู้ประกอบการใหม่ ซึ่งไม่ว่าจะใหม่ถอดด้าม หรือพอมีพื้นและหลักคิดอยู่ก่อนก็ตามแต่… ไม่ว่าจะตั้งใจทำเต็มเวลาหรือลองทำยามว่างด้วยทุนหนาและใจกล้าขนาดไหนก็ตามแต่… จุดแรกที่ต้องหาให้เจอคือโมเดลรายได้ และอย่าเริ่มต้นไกลจากจุดนั้น
ถ้าท่านอยากขายสลัดแค่วันละ 100 ชุด แต่เตรียมที่ดินทำสวน หาซื้อเมล็ดพันธ์กับสายยางรดน้ำผัก… ท่านต้องเลือกเอาว่าจะเป็นเกษตรกรหรือคนขายอาหาร เพราะการเริ่มด้วยการเป็นเกษตรกรผู้ขายอาหาร มี Operation จากต้นทางถึงปลายทางที่เป็นรายได้ยาวเกินไปจนคร่อมสองอาชีพไปแล้วอย่างน้อย
ประเด็นที่สำคัญจริงๆ จึงอยู่ที่การตรงเข้าหารายได้ก่อนอื่น ซึ่งหลายกรณีกลับตรงเข้าหากำไรดื้อๆ หรือแย่กว่านั้นคือตรงเข้าหาการลงทุนทั้งเงิน เวลาและทรัพย์สิน ซึ่งผมมองว่า เป็นการทำให้ธุรกิจตั้งใหม่เสียสมดุลย์เยอะเกินไป…
ประเด็นก็คือ… ท่านที่มีเวลาเต็มที่ทุ่มเทกับธุรกิจใหม่ และสามารถโฟกัสธุรกิจทุก Operation ได้เต็มที่ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไหร่… ยิ่งเป็นคนตกงานที่ไม่เหลือทางเลือกให้พะวักพะวงกับอะไร โอกาสจะทำอะไรล้มเหลวก็น้อยลงกว่ามาก
แต่กับท่านที่มีเวลาจำกัด ซึ่งหลายคนยังมีงานเดิมหรือกิจธุระประจำอื่นๆ ให้รับผิดชอบอยู่ แต่อยากขยับขยายค้าขายทำธุรกิจ ภายใต้ข้อจำกัดเรื่องเวลารวมทั้งปัจจัยอื่นๆ ที่ฟุ่มเฟือยโลดโผนกับอะไรไม่ได้เลย…
ผมแนะนำให้ลองทำเล็กๆ เกาะติดโมเดลรายได้เอาไว้ก่อนอื่น จะทำเฉพาะวันหยุดหรือเฉพาะช่วงที่ว่างก็ตามสะดวก แค่หาวิธีตัดตรงเข้าหารายได้ก่อน… ผมรู้จักคนทำเบเกอรี่โคตรอร่อย แต่เริ่มกิจการด้วยการไปสั่งร้านทำคุ๊กกี้สูตรตัวเองมาขายก่อนจะซื้อเตาอบขนาดใหญ่มาใช้หลังจากนั้นเป็นปี แถมมีออเดอร์จากร้านกาแฟให้วางขนมแล้วหลายสิบร้าน
และสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่ต้องเข้าใจก่อนก็คือ การเริ่มค้าขายใหม่ๆ มักจะไม่มีกำไรทันทีและมีข้อผิดพลาดมากมายที่ต้องจัดการให้หมด ซึ่ง “การแก้ข้อผิดพลาดบกพร่องทั้งหมด” นั่นแหละคือการทำธุรกิจ
ท่านที่มีเวลาน้อยอาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในการทำธุรกิจ เพราะมีเทคนิคมากมายในการขยับตารางเวลาให้ได้งานและธุรกิจไปพร้อมกันได้… แต่ถ้าความอดทนน้อย รักสบายหรือเชื่อว่ามีเสือให้จับมือเปล่าโดยการตามโฆษณาชวนหลงไป!!!