คนบางคนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองอย่างแจ่มชัด แล้วดำเนินชีวิตตามนั้น… ถ้าเขาไม่บ้าไปเสียก่อน เขาจะกลายเป็นตำนาน… คำโปรยเปิดเรื่องของหนังคลาสสิกออกฉายตั้งแต่ปี 1994 เรื่อง Legend of the Fall อันเป็นเรื่องเล่าจากปาก อดีตพ่อบ้านชาวอินเดียแดงวัยชรา ที่เคยใช้ค่อนชีวิตช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ราวปี 1915-1935 กับครอบครับลัดโลว์ หรือ Ludlow
Legends of The Fall ได้บทภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจาก นวนิยายชื่อเดียวกันคือ Legends of the Fall แต่งโดย Jim Harrison ซึ่งเป็นเรื่องราวของครอบครัวที่ประกอบด้วยผู้ชาย 4 วัย ต่างความเชื่อ ต่างวิจารณญาณและต่างประสบการณ์ของสามพี่น้องตระกูลลัดโลว์ กับนายทหารปลดประจำการผู้พ่อ โดยแกนของเรื่องโฟกัสที่ตำนานหรือเรื่องราวของ ทริสตัน ลัดโลว์ หรือ Tristan Ludlow… ลูกชายคนกลางของผู้พันวิลเลียม ลัดโลว์ หรือ William Ludlow…
ทริสตันชายหนุ่มผู้เติบโตแบบคาวบอยในรัฐ Montana พร้อมจิตวิญญาณนักล่า ที่ซึมซับวิถีนักรบนักล่าจากพ่อบ้านชาวอินเดียแดงชื่อ วันสแต็ป หรือ One Stap อดีตหัวหน้าเผ่าอินเดียแดงเชื้อสายครี หรือ Cree ชนเผ่าพื้นเมืองเก่าแก่ของแผ่นดินอเมริกา ซึ่งสืบทอดวิญญาณนักล่า กับทักษะการถลกหนังศีรษะและควักหัวใจศัตรูเพื่อปลดปล่อยวิญญาณ
แต่วันสแต็ปก็ออกจากเผ่า ติดตามนายพันเอกที่ออกจากราชการ เพราะรังเกียจและยอมรับไม่ได้กับคำสั่งจากนักการเมืองให้กำจัดชนเผ่าพื้นเมืองหรืออินเดียแดง… พาครอบครัวย้ายมาทำปศุสัตว์ใน Montana กับภรรยา และผู้ติดตามอย่างวันสแต็ป และ สามีภรรยาครอบครัว Decker โดยมี Roscoe Decker ผู้แต่งงานกับสาวอินเดียแดงชื่อ Pet Decker
ในไร่ของผู้พันลัดโลว์ เด็กหนุ่มสามคนเติบโตขึ้นที่นี่ด้วยความผูกพันธ์รักใคร่เปี่ยมสุข แม้ทั้งสามหนุ่มจะมีบุคลิกแตกต่างกันสิ้นเชิง
Alfred Ludlow หรืออัลเฟรดพี่ชายคนโต อบอุ่น จริงใจและรักความก้าวหน้าทะเยอทะยานและรักครอบครัว
Tristan Ludlow หรือทริสตัน… ชายกลางผู้กร้าวแกร่งเกินวัย รักการผจญภัย เป็นนักล่าผู้ยินดีเข้าป่าล่าสัตว์มาเลี้ยงดูทุกคนในครอบครัว และทำงานในฟาร์มได้ทุกอย่างโดยไม่รังเกียจ
Samuel Ludlow หรือแซมมวล… น้องเล็กที่คนในครอบครัวช่วยกันใส่ใจดูแลมาตั้งเด็ก จนเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองคิดคือสิ่งที่ตนทำได้ ทั้งที่ทักษะที่โดดเด่นที่สุดสำหรับแซมมวลคือการพึ่งพา
ชีวิตพ่อลูกตระกูลลัดโลว์ทั้งสี่เปลี่ยนแปลงครั้งแรกเมื่อ… ผู้หญิงคนเดียวในครอบครัวคือ Isabel Ludlow มารดาของหนุ่มน้อยทั้งสาม ขอแยกตัวกลับเข้าไปอยู่บ้านเดิมในเมืองใหญ่ ที่ไม่บ้านนอก เวิ้งว้าง เงียบเหงาและหนาวเหน็บ… แม้ไม่ใช่การหย่าร้างกับผู้พันลัดโลว์ แต่ก็เป็นการเดินจากลูกชายทั้งสาม โดยไม่เลือกอดทนเพื่อใคร
โดยเฉพาะทริสตันผู้เคยหาญกล้า กับประสบการณ์ปลุกหมีกริชลี่ดุร้ายคนเดียว และถูกหมีป่าตัวนั้นฝากแผลเป็นไว้บนร่างตั้งแต่อายุ 12… และทริสตันก็ได้นิ้วเท้าหน้าของหมีกริชลี่ตัวนั้นมาด้วยเช่นกัน… เมื่อบ้านไม่มีแม่ ทริสตันจึงเติบโตมาแบบนักล่า และสืบทอดจิตวิญญาญอินเดียแดงจากวันสแต็ป ซึ่งทั้งคู่คือคนล่าสัตว์หาอาหารให้ทุกคนในฟาร์ม และดูแลปศุสัตว์ ทำให้ทุกคนในรั้วไร่ลัดโลว์ รักทริสตันออกนอกหน้า ผิดกับลูกคนกลางครอบครัวอื่นๆ
ชีวิตพ่อลูกตระกูลลัดโลว์ทั้งสี่เปลี่ยนแปลงครั้งที่สองเมื่อ… ผู้หญิงอีกคน เข้ามาในครอบครัวลัดโลว์ในฐานะคู่มั่นของ แซมมวล ลัดโลว์น้องคนเล็กของตระกูล ที่สำเร็จการศึกษาจาก Harvard และกลับบ้านไร่ของครอบครัว… ซึ่งอัลเฟรดพี่ชายคนโตและทริสตัน ก็ตกหลุมรักซูซานนาห์ หรือ Susannah Fincannon… ในขณะที่ซูซานนาห์ก็ต้องใจทริสตัน พี่ชายคนกลางของคู่มั้นมาดเซอร์ตั้งแต่แรกพบ
ชีวิตพ่อลูกตระกูลลัดโลว์ทั้งสี่เปลี่ยนแปลงครั้งที่สามเมื่อ… แซมมวล ลัดโลว์น้องคนเล็ก อยากมีตำนานลูกผู้ชายแบบบิดา จึงดื้อรั้นไม่ฟังคำใครที่จะไปสมัครเป็นทหารช่วยอังกฤษรบกับเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง… ทำให้ผู้พันลัดโลว์ทั้งโกรธและเสียใจ รวมทั้งคู่มั้นสาวที่รอวาระแต่งงานและเข้าหอด้วยกัน… พี่ชายทั้งสองของแซมมวล จึงต้องไปกับน้องน้อยเพื่อปกป้องน้องคนเล็กและจิตใจบิดา… และนั้นทำให้ปมพี่และพ่อตามยุ่งชีวิตแซมมวล ที่เชื่อว่าตัวเองโตแล้วและไม่จำเป็นต้องฟังใคร… พาตัวเองไปตายในสนามรบอย่างโง่เขลาและมืดบอด… ซึ่งฉากการตายอย่างโง่เขลาและมืดบอดในหนังเรื่องนี้ ผู้กำกับทำภาพเน้นให้เห็นอย่างชัดแจ้งของข้อความ “โง่เง่าและมืดบอด” ให้เห็นภาพของแซมมวลถูกระเบิดควันและแก๊สน้ำตา วิ่งร้องหาพี่ชายจนติดลวดหนามและถูกยิงตายทั้งที่มองอะไรไม่เห็นตรงนั้น
การตายของแซมมวลในสนามรบ… ทำให้ทริสตันผู้ควรจะอยู่ดูแลน้องชายใกล้ชิด ถูกอัลเฟรดพี่ชายคนโตพลั้งปากกล่าวโทษ ซ้ำปมรู้สึกผิดในใจของทริสตันผู้ปักมีดควักหัวใจน้องเอากลับบ้าน และออกล่าถลกหนังศีรษะทหารเยอรมันทั้งคืน
วันเวลาผ่านไป… อัลเฟรดผู้สุขุม ก็ได้ปลดประจำการกลับบ้านไปหาบิดาและซูซานนาห์ ระหว่างรอให้ฤดูหนาวผ่านพ้นก่อนที่ซูซานนาห์ จะไปจากบ้านไร่ตลอดกาล อัลเฟรดก็เอ่ยปากขอให้หญิงสาวรับรักของเขา… แต่ก่อนที่ซูซานนาห์จะตัดสินใจอะไร ทริสตันก็กลับเข้าบ้านและซูซานนาห์ไม่ลังเลที่จะเลือกทริสตัน แม้ไม่มีพิธีแต่งงานและอนาคตสดสวย… อัลเฟรดคนพ่ายรัก จึงเข้าเมืองเพื่อสร้างอนาคตกับธุรกิจและการเมือง ตามฝันของตัวเอง
ไร่ลัดโลว์ไม่เคยมีเด็กมานาน และซูซานนาห์ก็ไม่มีทีท่าจะตั้งครรภ์ ครอบครัวลัดโลว์จึงชุบเลี้ยงดูแลบุตรสาวของ Roscoe Decker และ Pet Decker ชื่ออิซาเบลทู หรือ Isabel II… ที่ครอบครัวลัดโลว์รักใคร่ดูแลมาแต่ต้น แม้จะเป็นเพียงลูกครึ่งที่เกิดกับแม่ครัวชาวอินเดียแดงและชายผิวขาวที่ติดตามรับใช้ผู้พันลัดโลว์ก็ตาม
ชีวิตพ่อลูกตระกูลลัดโลว์ที่เหลือเพียงสองคนพ่อลูกในไร่ เปลี่ยนแปลงครั้งที่สี่เมื่อ… ลูกวัวโง่เขลา เดินไปถูกลวดหนามพันคอและดิ้นรนจนทริสตันต้องยิงลูกวัวตัวนั้นเพื่อให้พ้นทรมาน ภาพลูกวัวติดลวดหนาม ปลุกวิญญาณปีศาจในตัวทริสตันจนดูเป็นอันตรายกับคนรอบข้าง โดยเฉพาะซูซานนาห์ที่เกือบถูกทริสตันจ้วงแทงเพราะฝันร้าย… ทริสตันเยียวยาตัวเองโดยการออกท่องโลก และปลดปล่อยวิญญาณนักล่าไปหลายทวีป… และติดต่อส่งข่าวกลับมาด้วยจดหมายเพียงฉบับเดียวคือ บอกซูซานนาห์ไม่ต้องรอเขาอีก ให้หาผู้ชายดีๆ แต่งงานไปซะ!
ซูซานนาห์ผู้ไม่มีครอบครัวพ่อแม่ของตัวเองเพราะกำพร้า… และพาชีวิตมาจมอยู่บ้านไร่หลายปีเพื่อรอผู้ชายตระกูลลัดโลว์สองคน… จึงไม่มีทางเลือกมากนัก และการตัดสินใจของผู้หญิงในบ้านลัดโลว์คนนี้… บวกกับการตัดสินใจเข้าสู่การเมืองเต็มตัวของพี่ใหญ่อย่างอัลเฟรด ก็สร้างปมร้าวฉานกดดันผู้พ่ออย่างผู้พันลัดโลว์จนล้มป่วย
กระทั่งการกลับมาของทริสตันอีกครั้ง ดูเหมือนครอบครัวลัดโลว์จะกอบเก็บเยียวยาเริ่มต้นหลายสิ่งได้ใหม่อีกครั้ง… แต่ความกร้าวและดุดันในแบบแบดบอยของทริสตัน ก็พาตัวเองและครอบครัวที่สร้างขึ้นใหม่ด้วยการแต่งงานกับอิซาเบลทู สาวน้อยอีกคนที่เติบโตในรั้วลัดโลว์และหลงรักทริสตันมาตลอด… จบลงด้วยโศกนาฏกรรม ที่ทริสตันเข้าไปพัวพันท้าทายการค้าเหล้าเถื่อนในมอนทาน่า ที่มีกฏหมายห้ามขายแอลกอฮอล์ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ระหว่างปี 1920 ถึง 1933… ซึ่งทริสตัน ลัดโลว์ตัดสินใจค้าเหล้าเถื่อนเลี้ยงครอบครัวจนขัดแย้งกับผู้มีอิทธิพล
ตอนท้ายของเรื่อง… ทริสตันผู้ดิ้นรนทำหลายอย่างเพื่อดูแลและปกป้องสมาชิกในครอบครัวอย่างเคร่งเครียด กดดันและหลุดเลยบ้าคลั่งเป็นช่วงๆ ก็ไม่สามารถปกป้องคนที่รักจากความตายได้ซักคน… จะเหลือก็แต่… หมีชรานิ้วด้วนคู่ปรับเก่าแก่ของเขา ที่ต้องปลดปล่อยกันและกันตามความเชื่อของอินเดียแดงที่ว่า… คนกับสัตว์ป่าดุร้ายที่หลั่งเลือดให้กันในการต่อสู้ จะหลอมวิญญาณเป็นหนึ่งเดียว

Legends of The Fall ใช้ทุนสร้างเพียง 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ทำเงินได้มากถึง 160.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ… และส่งให้ Badd Pitt ผู้สวมบททริสตัน… กลายเป็นดาราเบอร์ใหญ่มานับแต่นั้น… หนังเลือกตัวแสดงได้สมบทจนสามารถดูหนังยาวกว่า 2 ชั่วโมงได้ตลอดเรื่อง… ทั้งๆ ที่หนังเล่าเร็วและขาดรายละเอียดมากมาย แต่ก็ได้ออสการ์ “ลำดับภาพยอดเยี่ยมประจำปี 1994”
สำหรับผม… Legends of The Fall มีสารหรือข้อความ หรือ Message มากมายซ่อนเอาไว้ ตามอย่างวรรณกรรมชั้นดีที่บอกเล่าแก่นแท้ผ่านพฤติกรรมของตัวละคร… ไม่มีใครถูกตลอดเวลา… ไม่มีใครผิดพลั้งตลอดกาล และทุกการกระทำล้วนต้องจ่ายเป็นบางอย่าง ที่บ่อยครั้งราคาสูงถึงชีวิต… อย่าได้โง่เขลาและมืดบอด หรือแม้แต่ดูแคลนเชื้อชาติสีผิวหรือกำพืด… ที่คนและสัตว์ป่าไม่ได้มีอะไรแตกต่างมากมาย นอกจาก “ความรัก” ที่คนมอบให้กัน… และ “ความตาย” ที่คนรุ่นต่อมาจะจดจำ เล่าถูกและมีอะไรให้เรียนรู้ผิดถูกชั่วดีเป็นมรดกจากเรื่องเล่า
และการจากโลกนี้ไปอย่างสมศักดิ์ศรี หรือ Good Death เหมือนที่สแต็ปนิยามการตายของทริสตัน… สุดท้ายจะเหลือ “ตำนาน” ที่มีใครซักคนยังจดจำ และเล่าขานถึง…
อ้างอิง