ข่าวคราวการเปิดตัว Libra coin อย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา มี Devid Marcus ทำหน้าที่เป็น Head Project โดยมี Facebook เป็นหัวเรือใหญ่ ร่วมกับพันธมิตรระดับธุรกิจข้ามชาติชื่อดังกว่า 28 รายเข้าร่วมโครงการตั้งแต่เริ่มต้น เช่น MasterCard, PayPal, Visa, eBay, Spotify, Uber, Lyft, Vodafone Group, Andreessen Horowitz เป็นต้น

ประเด็นมีอยู่ว่า Libra มีแผนจะใช้งานจริงปี 2020… ซึ่งตัวผมเองโชคดี ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกับหลายๆ ท่านที่สนใจและเข้าใจ Libra หรือแม้แต่ Blockchain, Cryptocurrency เลยเถิดไปถึง Web 3.0 มาพอสมควร
บทความตอนนี้ผมขออนุญาต ไม่เล่าที่มาที่ไปของ Libra Coin รวมทั้งมุมมองและอนาคตของ Libra อีก เพราะผมได้พูดไว้หลายเวที และเขียนถึงไว้มากแล้ว รวมทั้งข้อมูลบนอินเตอร์เน็ตก็มีอยู่มากมาย
แต่ผมจะข้ามไปพูดถึงวันที่เขาเปิดตัว Calibra Wallet หรือกระเป๋าเก็บ Libra Coin และแนวคิดการใช้และประยุกต์ใช้มากกว่า… ไม่เชิงว่าเป็นการทำนายอนาคต แต่ผมเชื่อว่า นี่เป็นวิสัยทัศน์ที่ท่านหรือผม คิดออกได้ไม่ยาก
ซึ่งการคิดได้ หรือคิดออกคราวนี้ อาจจะนำโอกาสมาถึงท่านมากมายก็ได้… อย่างน้อยๆ โอกาสที่จะได้รู้และเข้าใจ ท่านได้แน่นอนตั้งแต่ทราบว่าเรื่องนี้น่าสนใจ และเริ่มเรียนรู้และทำความเข้าใจมัน
เอาหล่ะ… เข้าประเด็นไปถึงวันที่สังคมโลกมี Cryptocurrency ชื่อ Libra แลกเปลี่ยนกันบนโลกออนไลน์แล้ว… อย่างแรกที่ต้องเกิดแน่ๆ คือ คนที่มีโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่มีบัญชีธนาคาร จะมี Wallet หรือกระเป๋าเงินดิจิตอลชื่อ Calibra ให้โหลดมาใช้งานบนมือถือได้… เมื่อสร้างบัญชีบน Calibra ก็เหมือนเปิดบัญชีธนาคาร เพราะท่านสามารถโอนเงินสกุลอะไรก็ได้ในโลกนี้ ไปแลกเป็น Libra Coin และเก็บใส่ Calibra Wallet เอาไว้… ท่านสามารถซื้อกาแฟที่สตาร์บัคส์ได้ทุกร้านทั่วโลก โดยไม่ต้องแลกเป็นเงินสกุลอะไรของชาติไหนอีก… ซึ่งตรงนี้ บัตรเครดิตอย่าง Visa หรือ Master card ก็ยังต้องมีการ แลกเปลี่ยนค่าเงินเมื่อมีการใช้จ่ายข้ามประเทศ
แต่ Libra ไม่ต้อง!
นั่นเป็นเพียงภาพหยาบๆ ที่ผมจงใจยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างให้เห็นภาพเท่านั้นครับ… จริงๆ แล้ว Libra Coin มีแง่มุมที่ลึกซึ้งอีกหลายอย่าง ที่หลายฝ่ายเชื่อว่า จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะเกิดการ Disrupted ภาคการเงินการธนาคารของโลก ด้วยอัตราเร่งที่อาจจะใช้เวลาน้อยกว่า 10 ปี… ผมได้ยินหลายคนบอกว่า แค่สองสามปีนับจากปี 2020 อะไรหลายๆ อย่างก็แทบจะเปลี่ยนไปหมดแล้ว… และสิ่งหนึ่งที่จะผลักการเปลี่ยนแปลงให้เร็วขึ้นก็คือ Blockchain โดยมี Cryptocurrency เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้การเปลี่ยนแปลง เป็นไปอย่างราบรื่น และมีอัตราเร่งที่ค่อนข้างเร็วทีเดียว
คำถามสำคัญที่ผมเจอประจำเมื่อพูดถึงอนาคตที่กำลังจะเปลี่ยนไปก็คือ… ถ้าเราไม่เปลี่ยนตามจะเกิดอะไรขึ้น?
ผมตอบแบบไม่ต้องคิดเสมอว่า… ไม่มีอะไรมากกว่าที่ท่านเป็นอยู่ครับ… ไม่มีอะไรเปลี่ยน ถ้าท่านไม่ยินดีจะเปลี่ยน และผมเชื่อว่าไม่ได้มีอะไรเลวร้ายย่ำแย่ ถึงเราจะไม่เปลี่ยนหรือปรับตัว
ส่วนท่านที่กระตือรือร้นที่จะเปลี่ยนแปลง เรียนรู้แนวโน้มใหม่ๆ และรับเอาสิ่งเหล่านั้นเข้ามาอยู่ในความคิด… แทบทุกคนที่ผมรู้จัก ต่างกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ ความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งส่วนใหญ่ต่างทดลอง เรียนรู้และทำความเข้าใจเพื่อสร้างโอกาสให้ตนเอง แต่ก็มีบางส่วนเรียนรู้และศึกษาปรากฏการณ์ใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสให้คนที่ท่านรักรอบๆ ตัวก็มี
กรณีของ Blockchain และ Cryptocurrency ผมอยากให้ทุกท่าน เปิดหูเปิดตา เรียนรู้และทำความเข้าใจให้มาก… เพราะนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งของโอกาส เหมือนการมาถึงของยุคอินเตอร์เน็ตช่วงเริ่มต้นที่เน้นการสื่อสารข้อมูล… มาเป็นยุคอินเตอร์เน็ต ที่สามารถขับเคลื่อนมูลค่าไปพร้อมๆ กับการแลกเปลี่ยนข้อมูลไปด้วย
ส่วนกรณีของ Libra… โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า Libra จะทำให้เศรษฐกิจแบ่งปัน หรือ Sharing Economy ไร้ขีดจำกัดขึ้นกว่าเดิม และสร้างผลประโยชน์ให้ทุกคนในระบบนิเวศน์… เตรียมตัวไว้ครับถ้ายินดีเรียนรู้และเปลี่ยนแปลง
กลางปีหน้า… แป๊บๆ ก็ถึงแล้ว!
อ้างอิง