my-way

Opportunity Probability… โอกาสแห่งความน่าจะเป็น

ในวงสนทนาของคนที่ “อิน” กับหนังสือ Designing Your Life ทั้งหมดจะพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้ ด้วยมุมมองของการสร้างโอกาสด้วยตัวเอง… คำว่า Designing Your Life ที่แปลตรงไปตรงมาว่าออกแบบชีวิตคุณได้แล้ว จึงตีความซ้ำได้ว่าออกแบบโอกาสให้ตัวเองได้แล้วเช่นกัน

บทความนี้เป็นตอนต่อของซีรีย์ Designing Your Life ตอนที่แปด… ตอนสุดท้ายต่อจาก Prototype… ต้นแบบชีวิต โดยยึดแนวทางและหลักคิดแบบ Design Thinking จากหนังสือ Designing Your Life ของ Bill Burnett และ Dave Evans ผู้สอนหลักสูตร Design Thinking ที่ Stanford D. School ด้วยการถอดบทเรียนและตีความแบบ Reder… อ่านจบแล้วถ้าชอบก็ช่วยแชร์แบ่งปันคนอื่นให้ด้วยครับ หรืออยากชี้แนะติเตือนประเด็นไหนอย่างไร ก็ยินดีน้อมรับผ่านกล่องความเห็นท้ายบทความหรือ DM ข้อความส่วนตัวมาใน Line: @reder ก็ได้ครับ

แต่ต้องเรียนหนอนหนังสือและแฟนๆ Design Thinking และหนังสือ Designing Your Life ไว้ตรงนี้อีกครั้งว่า… ทั้งหมดนำเสนอแบบ Reder ซึ่งไม่สามารถถ่ายทอดคุณูปการทั้งหมดของหนังสือมาบอกต่อได้… ซึ่งการอ่านต้นฉบับ หรือไปเข้าเรียนกับ Design Thinking Coach เป็นเรื่องเป็นราวย่อมดีกว่า ซึ่งผมเชียร์อย่างหลังคือไปเข้าเรียน… เพราะในหนังสือทั้งหมดเป็นกรณีตัวอย่างในบริบทของอเมริกา ที่อาจจะต้องอ่านและทำแบบฝึกหัดหลายรอบจึงจะเข้าใจว่า… หนังสืออย่าง Designing Your Life ต่างจากคู่มือครูแนะแนวตรงไหน

แต่ Mindset จากการดำดิ่งกับหนังสือ Designing Your Life ตั้งแต่ต้นจนจบ และ “อ่านแบบคิดคล้อยตาม” ไปก่อน… ไม่ด่วนหักล้างโต้แย้งไปก่อน จะทำให้เราเปิดใจยอมรับเทคนิคของการค้นคว้านวัตกรรม สามารถเอามาแปลงใช้ออกแบบชีวิตคนได้ด้วย

ประเด็นของนวัตกรรมที่หมายถึง ความสำเร็จในการค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ทำให้เป้าหมายสำเร็จได้เกินคาด… ไม่ว่าจะมาจากข้าวของ หรือขบวนการที่ค้นพบใหม่… ทั้งหมดนั่นทำให้ชีวิตคนที่ค้นพบ ก้าวเข้าไปสัมผัสความสำเร็จในชีวิตได้ด้วย… ดังนั้น จะ Design Thinking แบบ Designing Your Life หรือ Designing Innovation… ทั้งสองมิติจะเกิดด้วยกันเสมอๆ ไม่มีทางเปลี่ยน

ความสำคัญของแนวคิดการตั้งต้นจากปัญหา… ที่คนทั่วไปเกลียดปัญหา แต่นักออกแบบชีวิตกลับชอบปัญหา และท้าทายตัวเองให้เรียนรู้จากปัญหา ทดลองหาวิธีแก้ปัญหา แม้ว่าหลายครั้งการหาทางแก้ปัญหาเดิม จะพาเราไปเจอปัญหาใหม่ๆ อีกมากก็ยิ่งชอบ ยิ่งท้าทาย และหาทางแก้ปัญหาไปพร้อมๆ กับหาหนทางเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ทั้งจากความสำเร็จและล้มเหลวจากการแก้ปัญหา ซึ่งทั้งหมด… นักออกแบบชีวิตมองเป็นการเรียนรู้และถือว่าจ่ายค่าครูที่เป็นทั้งเงินและเวลา

ในหนังสือ Designing Your Life แนะนำให้เอา Failure Log Worksheet มาช่วยบันทึกความล้มเหลว เพื่อให้ความล้มเหลว กลายเป็นการเรียนรู้ที่ไม่สูญเปล่า… โดยให้บันทึกความล้มเหลวในช่อง Failure… แจกแจงว่าผิดพลาดตรงไหนใส่ช่อง Screwup… มีจุดอ่อนบ้างมั๊ยจึงพลาด ถ้ามีก็เขียนใส่ช่อง Weakness ไว้… มีโอกาสเติบโตก้าวหน้ามั๊ย แจกแจงใส่ช่อง Growth Opportunity ไว้เลย ถ้าไม่มีโอกาสแล้ว ก็พิจารณาไปตามสมควรครับ… และสุดท้ายมีข้อมูลลึกๆ อะไรให้เรียนรู้และเข้าถึง หรือเข้าถึงอย่างไร ก็บันทึกใส่ช่อง Insight ไว้… เรื่องการหา Insight จากความล้มเหลวเป็นเรื่องสำคัญมากต่อการเรียนรู้และแก้ไข ที่จะพาเราออกจากความผิดพลาดซ้ำๆ ที่ถือเป็นความล้มเหลวอย่างไร้ค่า

ดังนั้น… เมื่อเราออกแบบชีวิตและเลือกต้นแบบ จนสร้างแผน 5 ปีพร้อมใช้แล้ว การออกไปเสนอตัวทำความฝันจึงควรจะเริ่มต้นได้แล้ว… ถ้าก้าวแรกในปีแรกคือการไปสมัครงาน งานและรายได้ในแผนที่ร่างไว้คืออะไรก็จงตรงไปหางานที่ต้องการให้เจอ… เตรียมตัวให้พร้อมที่จะถูกปฏิเสธและเตรียมให้พร้อมที่จะเรียนรู้เหตุผลที่ถูกปฏิเสธ… และเตรียมให้พร้อมที่จะลองใหม่จากต้นทุนที่เคยถูกปฏิเสธ

หรือถ้าต้นแบบที่เลือกไว้… สร้างแผน 5 ปีว่าจะทำธุรกิจ!… ก็อย่าลังเลที่จะเปิดธุรกิจเพื่อเรียนรู้โดยไม่ลังเล และเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเรียนรู้จากการล้มเหลวไปจนถึงขาดทุน… จำไว้ว่า ไม่ว่าเราจะเริ่มธุรกิจแบบอาชีพที่สอง หรือจะเป็น Weekend Entrepreneur… หรือจะเป็น Startup หรือ SME… เราขาดทุนตั้งแต่ตัดสินใจทำธุรกิจแล้ว… ดังนั้น หากทุนมีน้อย ทรัพยากรมีจำกัด… แผน 5 ปีจำเป็นต้องล้มเหลวได้โดยไม่ล้มเลิก ทั้งๆ ที่ทุนก็น้อย ทรัพยากรก็จำกัดนั่นแหละ

ส่วนคนที่ออกแบบชีวิตครอบครัว… ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องเริ่มจากการหาคู่ชิวิต ที่หลายคนอาจจำเป็นต้องสร้างแผน 5 ปีทางอาชีพการงานหรือธุรกิจ เพื่อให้เจอคู่ชีวิตที่อยากเจอเสียก่อน ซึ่งอาชีพหรือหน้าที่การงานจะพาเราไปเจอตัวเลือกที่หลากหลายกว่า หันซ้ายหันขวาและพยักหน้ากับตัวเลือกจำกัดหรือว่างเปล่าไร้ตัวเลือก… แบบนั้นคงไม่ใช่นักออกแบบชีวิตแน่ๆ

เพราะนักออกแบบชีวิตต้องสร้างทางเลือกเยอะๆ ก่อนตัดสินใจเสมอ!

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest
Tumblr

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts