งานวิจัยตีพิมพ์ล่าสุดในหัวข้อ Outside the Safe Operating Space of a New Planetary Boundary for Per- and Polyfluoroalkyl Substances (PFAS) โดย Professor Ian T. Cousins และ คณะ ซึ่งเก็บตัวอย่างน้ำฝนมาทดสอบหาการปนเปื้อนของ PFOS หรือ Perfluorooctanesulfonic Acid หรือ กรดเปอร์ฟลูออโรออคเทนซัลโฟนิก… PFOA หรือ Perfluorooctanoic Acid หรือ กรดเปอร์ฟลูออโรออคทาโนอิก… PFHxS หรือ Perfluorohexanesulfonic Acid หรือ กรดเพอร์ฟลูออโรเฮกเซนซัลโฟนิก และ PFNA หรือ Perfluorononanoic Acid หรือ กรดเพอร์ฟลูออโรโนนาโนอิก ซึ่งมาจากสารเคมีกลุ่ม Per- and Polyfluoroalkyl Substances หรือ PFAS หรือ สารพิษตลอดกาล โดยพบการปนเปื้อนของ PFOA และ PFOS ในน้ำฝน…เกินค่ามาตรฐาน EPA หรือ US Environmental Protection Agency อย่างมาก และ ค่า Σ4 PFAS หรือ ผลรวมของค่าการปนเปื้อนของสารเคมีอันตรายทั้ง 4 ตัว… อยู่ในเกณฑ์เป็นพิษที่ไม่อาจดื่มกิน หรือ ใช้สอยได้โดยตรง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะออกประกาศว่า น้ำฝนทุกที่บนโลกไม่ปลอดภัยสำหรับการบริโภค
Per- and Polyfluoroalkyl Substances หรือ PFAS หรือ สารพิษตลอดกาล เป็นกลุ่มสารเคมีที่ถูกผลิตเพื่อใช้ในสินค้าอุตสาหกรรม และ สินค้าสำหรับผู้บริโภคทั่วไป เช่น เครื่องครัวที่เป็น Non-Stick… เสื้อผ้ากันน้ำ… ผ้าและพรมที่มีคุณสมบัติกันเปื้อน… เครื่องสำอางบางรายการ… โฟมดับเพลิง… บรรจุภัณฑ์สินค้าที่กันน้ำ น้ำมัน และ ความร้อน… ซึ่งเคมีกลุ่ม PFAS ที่กำลังเป็นประเด็นด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดก็คือ PFOA… PFOS… PFHxS และ PFNA และ สหรัฐอเมริกากำลังอยู่ในระหว่างการประกาศยกเลิกใช้ PFOA และ PFOS อย่างเป็นทางการในเร็ววันนี้
PFAS หรือ สารพิษตลอดกาล เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ รวมถึงมีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย หรือ Immune System ที่สร้างความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย ภาครัฐบาล เอกชน และ ประชาชนทั่วไปในสหรัฐอเมริกาเริ่มให้ความสนใจและกังวลถึงอันตรายของ PFAS ในสินค้าสำหรับผู้บริโภค โดยเฉพาะในอาหารและเครื่องสำอาง
ก่อนหน้านั้น… กระทรวงกลาโหมสหรัฐ และ ECHA หรือ European Chemicals Agency หรือ หน่วยงานจัดการด้านเคมีของสหภาพยุโรป ได้เผยข้อมูลการใช้ “โฟมดับเพลิง” ซึ่งมีส่วนประกอบของสารเคมี PFAS ทำให้ปนเปื้อนน้ำดื่มและน้ำบาดาล ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของคนและความหลากหลายทางชีวภาพได้ในระยะยาว
การแบนสารเคมี PFAS หรือ สารพิษตลอดกาล ในโฟมดับเพลิงในสหรัญอเมริกาจึงเริ่มรณรงค์ และ จริงจังกันในหลายมลรัฐมาตั้งแต่ปี 2020… ส่วนสหภาพยุโรปdHกำลังอยู่ในช่วงพิจารณาเดินหน้าผลักดันการยกเลิกใช้สารเคมี PFAS ในโฟมดับเพลิงเช่นกัน… โดยมีงานวิจัยโดยทีมนักวิทยาศาสตร์กลุ่ม Toxic-Free Future จากมหาวิทยาลัยอินเดียนา มหาวิทยาลัยวอชิงตัน และ สถาบันวิจัยเด็กซีแอตเทิล ได้รายงานการพบกลุ่มสารเคมี PFAS ในน้ำนมแม่ ซึ่งมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก และ มากขึ้นเป็น 2 เท่าในทุก 4 ปี… ซึ่งสารเคมี PFAS ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวันได้สะสมอยู่ในร่างกายของเรา… การศึกษานี้ได้เก็บตัวอย่างน้ำนมแม่ในสหรัฐมาตั้งแต่ปี 2005 เพื่อตรวจวิเคราะห์หาสารเคมี PFAS โดยพบน้ำนมของแม่ 50 คนจากทั้งหมด 50 คน หรือ 100% มีสารเคมี PFAS ทั้งองค์ประกอบที่มีใช้อยู่ในอุตสาหกรรมปัจจุบันในปริมาณมาก และ เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งเป็นสารเคมีประเภทที่ยกเลิกการใช้ไปแล้ว… ซึ่งนอกจากเป็นผลกระทบที่มีต่อสุขภาพของแม่ รวมถึงการเจริญเติบโตและระบบภูมิคุ้มกันของลูกแล้ว… ยังพบผลกระทบของสารเคมี PFAS ส่งผลต่อสุขภาพของพยาบาลกุมารเวชอย่างมีนัยยะสำคัญด้วย
ส่วนกรณีการค้นพบ PFAS หรือ สารพิษตลอดกาล ในน้ำฝนจากงานวิจัยของ Professor Ian T. Cousins และ คณะ นั้น… ถือว่าเป็นข้อสรุปที่ชัดเจนว่าน้ำฝนดื่มกินไม่ได้ หรือ แม้แต่นำไปปรุงอาหาร ล้างผัก และ ใช้สอยไม่ได้อย่างชัดเจน หากไม่ผ่านการกรองที่ได้มาตรฐานน้ำสะอาด
References…
