Learning from Home

Remote Learning From Home…

การถูก Disrupted โดยปริยายของแวดวงการศึกษา จากพิษโคโรน่าไวรัส COVID-19 ที่ทำให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งในประเทศไทย ต้องย้ายเข้าสู่การเรียนการสอนออนไลน์กันอย่างจ้าละหวั่น… และจากการติดตามข่าวสารฝั่งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่มีเจ้ากระทรวงอย่าง ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ก็ดูเหมือนจะใช้จังหวะนี้เป็นโอกาสในการดันมหาวิทยาลัยที่เชื่องช้ากับการออนไลน์หลักสูตรและการสอน… ให้ต้องปรับด้วยทางเลือกที่เหลือสายเดียวตรงนี้คือ… e-Learning

ล่าสุด… 18 มีนาคม 2563 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เปิดถึงมาตรการในการรองรับสถานการณ์ COVID-19  ในส่วนของการดูแลนิสิต นักศึกษาของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ ให้มีการเรียนการสอนผ่านออนไลน์ 100%…โดยจับมือกับบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เปิดให้มหาวิทยาลัยทุกแห่งทั่วประเทศ สามารถยกระดับการศึกษานอกสถานที่ให้เป็นไปในรูปแบบที่เกินกว่าแค่การประชุมทางไกลผ่านวิดีโอทั่วไป ด้วยเครื่องมือเฉพาะทางแบบครบวงจรอย่าง Microsoft Teams สำหรับทั้งนิสิต-นักศึกษา และอาจารย์ผู้สอนทั่วประเทศ   

ส่วนชั้นเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในบ้านเรา ดูเหมือนจะทำตัวเงียบหายไปในกระแสข่าว COVID-19 ที่น่าจะแปลได้ว่า… ไม่มีความเคลื่อนไหวเชิงรุกใดๆ ออกมาจากกรมกองหรือกระทรวงที่เป็นการศึกษาพื้นฐานของชาติให้เห็นสัญญาณการเปลี่ยนแปลง

CHANGSHA, Feb. 10, 2020 — English teacher Chen Hui L gives an online tuition to students at Lushan International Experimental Primary School in Changsha, central China’s Hunan Province, Feb. 10, 2020. As schools across the country are required to postpone the opening of the spring semester, schools in Changsha have offered online tuition as an alternative to help students study at home. (Photo by Xue Yuge/Xinhua via Getty) (Xinhua/Xue Yuge via Getty Images)
NANCHANG, Feb. 11, 2020 — Gao Yingyan L, a student of No.4 Primary School in Wanli District, attends an online class at home in Nanchang City, east China’s Jiangxi Province, Feb. 10, 2020. As schools across the country are required to postpone the opening of the spring semester, students in Jiangxi Province have been encouraged to study at home in various ways. (Photo by Peng Zhaozhi/Xinhua via Getty) (Xinhua/Peng Zhaozhi via Getty Images)

มีกรณีที่น่าสนใจจากประเทศจีน เมื่อทางการสั่งปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเพื่อลดการแพร่กระจายของ COVID-19 อย่างไม่มีกำหนด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้การศึกษาในประเทศจีนหยุดชะงักลง… แม้การแพร่กระจายของไวรัสโคโรนาทำให้ต้องเลื่อนภาคเรียนออกไป แถมยังเกิดขึ้นในช่วงที่นักเรียนต้องเตรียมความพร้อมสำหรับสอบเข้ามหาวิทยาลัย ทำให้นักเรียนหลายคนจำเป็นต้องเรียนอยู่ที่บ้าน แต่ทางกระทรวงศึกษาธิการของจีนก็ได้พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส

กระทรวงศึกษาธิการของจีนได้ออกแถลงการณ์สนับสนุนให้โรงเรียนใช้แพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตเป็นทางเลือกในการสอนแบบออนไลน์ นอกจากนี้ยังวางแผนเปิดห้องเรียนบนระบบคลาวด์แห่งชาติ ทำการจัดหาสื่อการสอนและหลักสูตรสำหรับนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

โดยการให้คะแนนนั้นก็จะเป็นการเน้นไปที่การมีส่วนร่วมในการอภิปรายในชั้นเรียน ซึ่งจะทำผ่านแพลตฟอร์ม Video Conference อย่าง Dingtalk ของ Alibaba และ Ketang ของ Tencent

ประเด็นก็คือ… การศึกษาทางไกลไม่ใช่เรื่องง่าย บางพื้นที่ไม่ได้มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้… หรือบางพื้นที่อินเตอร์เน็ตก็ช้า… แต่การไม่สามารถร่วมชั้นเรียนผ่าน Video Conference ก็ไม่ใช่ข้ออ้าง เพราะนักเรียนสามารถดาวน์โหลดไฟล์เสียงและไฟล์งานหรือการบ้านมาทำได้เช่นกัน โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทห่างไกลที่ไม่มีอินเตอร์เน็ตเข้าถึง ทางหน่วยงานของรัฐหรือ China Education Network ก็ได้เปิดห้องเรียนออกอากาศทางทีวี ทุกวันธรรมดาตั้งแต่เวลา 8.00 น. ถึง 22.00 น. โดยครอบคลุมวิชาแกนหลักทั้งหมด อย่างวิชาคณิตศาสตร์ไปจนถึงวิชาภาษาจีน

นักเรียนบางคนได้แสดงความเห็นในการเรียนรูปแบบนี้ว่า พวกเขารู้สึก Productive มากกว่าการเรียนในห้องเรียนเสียอีก!

แต่นักเรียนส่วนหนึ่งก็ยังอยากนั่งเรียนร่วมกับเพื่อนๆ มากกว่า… ในขณะที่เด็กๆ อีกส่วนหนึ่งก็เสียสมาธิไปกับเกมส์ออนไลน์เมื่อต้องเรียนจากที่บ้าน

ส่วนความคิดเห็นฝั่งผู้สอน… การสอนออนไลน์มีจุดอ่อนอยู่ที่การให้ฟีดแบคทันทีแบบสอนในห้องเรียนไม่ได้ เพราะปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียนถือว่าเป็นศูนย์สำหรับชั้นเรียนออนไลน์

ประเด็นเรื่องเด็กๆ อยากนั่งเรียนร่วมกับเพื่อนจะสุขใจกว่าขอตัดออกไปจากปัญหาการจัดการศึกษาออนไลน์ก่อนน๊ะครับ… ส่วนกรณีเด็กอยู่บ้านเล่มเกมส์มากกว่าเรียนเป็นเรื่องค่อนข้างแน่นอน ถ้าจะให้ผู้ปกครองมานั่งเฝ้ากำกับและกำชับเด็กแบบครูในโรงเรียน ก็คงเป็นเรื่องลำบากเพราะทักษะพ่อแม่กับทักษะครูย่อมแตกต่างกันมาก

ยิ่งถ้าเป็นภาวะที่พ่อแม่ต้องไปทำงาน… การเรียนจากที่บ้านสำหรับเด็กๆ คงเละเทะเพราะไม่ใช่วัยที่จะมีแรงจูงใจแบบ Self-Study…

แต่นี่ก็ไม่ใช่เหตุผลเพื่อกล่าวอ้างว่า… การศึกษาระดับปฐมศึกษาและมัธยมศึกษาไม่จำเป็นต้องมีระบบ e-Learning ให้เด็กๆ… และควรจะใช้วาระนี้พัฒนาระบบให้เข้มแข็งเท่าเทียมกับการจัดการเรียนการสอนในสถาบันหรือโรงเรียน… ซึ่งทัศนะส่วนตัวของผมมองว่า การทำหลักสูตรออนไลน์ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีความจำเป็นอย่างมาก และการจัดชั้นเรียนในโรงเรียนก็ยังสำคัญอย่างมาก… และการนำข้อดีของทรัพยากรออนไลน์ มาบวกกับความสำคัญของครูและห้องเรียน… จะมีความเป็นไปได้ที่จะให้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างมากยิ่งกว่าเช่นกัน

ส่วนประเด็นปฏิสัมพันธ์ผมไม่พูดถึงแล้วน๊ะครับ… เพราะผมถือว่าผมเสนอให้มีทั้งสองแบบอยู่ในนโยบายการศึกษาชาติไปเลย…

ขอบคุณบทความแปลจาก TechSauce.co
ขอบคุณภาพประกอบจากสำนักข่าว Xinhua

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest
Tumblr

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts