Education Resource Planning

Smart Pedagogy and Smart Education… วิสัยทัศน์ทางการศึกษาเร่งด่วนจำเป็น #ReEducation

เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ซึ่งหลายสิ่งไม่เหลือทางเลือกอื่นใดนอกจากเปลี่ยนแปลงโดยเปิดประตูต้อนรับเทคโนโลยีได้ประตูเดียว และ หลายกรณียังต้องเปิดประตูกว้างๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง หรือหนักหน่อยอาจจะถึงขั้นต้องเปลี่ยนถึงระดับ Culture Change หรือ เปลี่ยนวัฒนธรรมให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่จำเป็นต้องเปิดรับกันทีเดียว… ซึ่งความเปลี่ยนแปลงนั้นจะกระทบทุกคนที่เกี่ยวข้องครั้งใหญ่ จนถึงขั้นต้องเปลี่ยนรูปแบบและวิถีชีวิต ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนระดับ Culture Change นั่นเอง

ในอุตสาหกรรมการศึกษาเองก็เปลี่ยนแปลง และ เปิดรับเทคโนโลยีใหม่ๆ มาตลอด ถึงแม้แก่นปรัชญาพื้นฐานการศึกษาอันมี “เรียน กับ สอน” จะยังคงเดิม… แต่บริบทโดยรอบเพื่อให้การเรียนการสอนบรรลุวัตถุประสงค์โดยบกพร่องน้อยที่สุด ล้วนมีการเปลี่ยนแปลงตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยนำมาประยุกต์ใช้ในทุกรายละเอียดเพื่อให้การเรียนการสอนบรรลุวัตถุประสงค์ได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมมาตลอด

หลายปีก่อน… งานวิจัยทางการศึกษาอันว่าด้วย Smart Education หรือ ระบบชาญฉลาดทางการศึกษา มักจะถูกพูดถึงเพียงในระดับทฤษฎี และ มีนำไปประยุกต์เป็นหัวข้อวิจัยทางการศึกษาบ้าง… ก่อนจะขึ้นหิ้ง หรือ ถูกทิ้งทั้งข้อมูล และ ข้อเสนอแนะท้ายเล่มวิจัยเอาไว้แบบนั้นและกลับสู่การเรียนการสอนแบบดั้งเดิม หรือ Traditional อย่างที่เคยเป็นมา

กระทั่งวิกฤตโควิดจู่โจมชาวโลกถ้วนหน้า ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมจนต้องปรับตัวกันครั้งใหญ่เท่านั้น… ระบบสนับสนุนเพื่อให้การเรียนการสอนบรรลุวัตถุประสงค์อย่างราบรื่นที่สุด ก็ได้รับผลกระทบครั้งใหญ่จนไม่ราบรื่น และได้เห็นความเปราะบางของระบบที่เน้นการเคลื่อนย้ายคนตั้งแต่ระบบ Admission หรือ ระบบคัดเลือกเข้าเรียนที่ต้องแห่กันไปสมัคร… ไปสอบ… ไปรายงานตัว… ไปจ่ายค่าเทอม… ไปซื้อเครื่องเรียน… ไปปฐมนิเทศก์… ประชุมผู้ปกครอง และ อะไรอีกมาก ซึ่งวุ่นวายโกลาหลเป็นระยะๆ ไปพร้อมๆ กันทั้งฝั่งนักเรียนและผู้ปกครอง กับ ฝั่งครูอาจารย์และสถาบันการศึกษา

ซึ่งโควิดได้ขัดขวางธรรมเนียม หรือ Culture Disrupted ไม่ให้เกิดบริบททางการศึกษาแบบ “เคลื่อนย้ายคน” ได้เหมือนเดิม จนต้องเปิดทางให้เทคโนโลยีทางการศึกษาระดับเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม หรือ เปลี่ยนธรรมเนียม หรือ Culture Change ไปสู่ระดับ Smart Education ซึ่งครอบคลุม…

  1. Communication หรือ การสื่อสาร… โดยระบบการศึกษาจำเป็นต้องสร้าง และ ใช้ช่องทางการสื่อสารใหม่ๆ บนเทคนิค และ เทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งการสื่อสารเชิงการจัดการ และ การสื่อสารเชิงการศึกษาครอบคลุมการเรียน การสอน และ การสอบ… ซึ่งการเปิดรับเทคโนโลยีอย่างเดียวไม่เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประสิทธิภาพ และ ประสิทธิผลอย่างแน่นอน หากบริบททางการศึกษาตั้งแต่ระดับกฏระเบียบไปจนถึงเงื่อนไของค์ประกอบทั้งหมด ไม่ถูกเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องตามกันไปโดยเร็ว
  2. Administration หรือ การจัดการ… ซึ่งแต่เดิมงานธุรการทางการศึกษาล้วนทำงานบนข้อมูลแบบแยกส่วน และ ทำงานโดยเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายๆ เหมือนกันทั้งโลก… ซึ่งทุกฝ่ายที่มีอยู่ทั้งหมดนั้นจำเป็นต้องเปิดรับเทคโนโลยีไปสู่ RPA หรือ Robotics Process Automation จนการปฏิรูปสุดท้ายค่อนข้างชัดเจนแล้วว่า… งานธุรการจะไม่ต้องใช้คน หรือ เจ้าหน้าที่อีกเลย
  3. Affordability หรือ ค่าใช้จ่ายต่ำ… โดยมีต้นทุนการจัดการ หรือ ต้นทุนงานธุรการที่เคยต้องใช้เจ้าหน้าที่มากมายมาทำงาน… เมื่อเปลี่ยนไปใช้กลไก RPA ทั้งงานทะเบียนและการเงิน รวมทั้งงานจัดการทรัพยากรภายใน… รวมไปจนถึงค่าใช้อาคารสถานที่ซึ่งแต่เดิมมีค่าใช้จ่ายมากจากจำนวนนักเรียนนักศึกษาที่แห่แหนมาใช้บริการกันพร้อมหน้า เมื่อเปลี่ยนไปเรียนออนไลน์จนลดการเดินทางมาใช้สถานศึกษา ต้นทุนการจัดการศึกษาก็จะต่ำลงอย่างมาก… รวมทั้งค่าใช้จ่ายของฝั่งผู้เรียนก็ลดลงจากค่าอาหารนอกบ้าน และ ค่าเดินทางได้มากเช่นกัน
  4. Flexibility หรือ ยืดหยุ่น… โดยเฉพาะการศึกษา Onsite แบบดั้งเดิม ซึ่งกดดันที่ผู้สอนให้ต้องถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เรียนอย่างพร้อมเพรียงและเท่าเทียม โดยกิจกรรมการเรียนการสอนต้องนัดเวลาอย่างชัดเจนจนต้องมีตารางเรียนตารางสอน อันจำเป็นต้องนัดมาพบกันทางเดียวเท่านั้น โดยไม่มีทางเลือกอื่น… ในขณะที่ Smart Education จะเปิดทางเลือกให้ทุกฝ่าย “มีอิสระในการจัดการเวลา” ที่เหมาะสมกับตนเองมากขึ้นกว่าเดิมโดยไม่บกพร่องจนยอมรับไม่ได้
  5. Learning Materials หรือ สื่อการเรียนรู้… ซึ่งจำเป็นต้องปฏิรูปทั้งรูปแบบ และ กลไกเทคนิคเชิงวิชาการรวมกับการจัดการให้สอดคล้องกับ RPA Administrative หรือ กลไกธุรการอัตโนมัติ… ซึ่งสื่อการเรียนที่ผลิตขึ้น จำเป็นต้องเข้มข้นชัดเจน และ ผ่านเกณฑ์การประเมินผลการศึกษา และ ยึดมั่นในปรัชญาการศึกษา… ซึ่งนักการศึกษายุคปฏิรูปทั่วโลกกำลังเคลื่อนไหวเพื่อบูรณาการเทคโนโลยีทางการศึกษา เข้ากับปรัชญาทางการศึกษาจนเกิดคำว่า Smart Pedagogy โดยจะยังคงสำคัญ และ เป็นเสาหลักให้แนวทาง กับ เนื้อหาเพื่อการเรียนการสอน… ถูกปฏิรูป และ เปลี่ยนแปลงโดยยังคงคุณค่าต่อสติปัญญา และ ภูมิรู้ที่มนุษยชาติยังมีภาระต้องถ่ายทอดส่งต่อกันไป

ประเด็นเป็นแบบนี้ครับ… ระบบการศึกษาในปัจจุบันล้วนปรับตัว และ เปลี่ยนแปลงตามบริบททางเทคโนโลยีที่เข้ามา จนเราได้เห็นสถานศึกษาขนาดใหญ่ และ สถานศึกษาที่บริหารโดยนักบริหารการศึกษาเปี่ยมวิสัยทัศน์ เปิดกว้างกับระบบบริหารภายในด้วยการใช้ซอฟท์แวร์ EDRP หรือ Education Resource Planning รวมทั้งการเปิดใช้ระบบการเงินของสถานศึกษาผ่าน Payment Gatway ที่ทันสมัย… ซึ่งการพัฒนามาถึงขั้นนี้ จะหมายถึงความพร้อมที่จะปฏิรูปไปสู่ Smart Education เต็มรูปแบบได้ไม่ยาก… แต่

Smart Education เป็นกรอบการทำงาน หรือ Framework ขนาดใหญ่ที่จำเป็นต้องบูรณาการ “วัฒนธรรมทางการศึกษาทั้ง 5 ด้าน” ให้ถึงระดับ Smart Education ในขั้นที่ไม่ขัดแย้ง และ หน่วงกันเองในระบบ โดยเฉพาะ Learning Materials ในระดับ Smart Pedagogy ซึ่งมีน้อยมากในปัจจุบัน และยังเห็นการคลำทางแบบ “ตาบอด แขนด้วน ไม่มีรองเท้าใส่” เดินอยู่ริมหน้าผากันอยู่เป็นส่วนใหญ่… ซึ่ง Learning Materials ระดับ Smart Pedagogy ต้องการสื่อทางการศึกษาที่ทันสมัยพร้อมเส้นทางข้อมูลที่เกี่ยวกับสื่อการเรียนรู้ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Smart Education เพื่ออย่างน้อยต้องเกิดภาพ

  1. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพระหว่างผู้ปกครอง ครู นักเรียน และ ผู้บริหารสถาบันการศึกษา 
  2. เสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนกับครูผ่านบริบทการเรียนการสอนอันยืดหยุ่นสร้างสรรค์
  3. ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานตั้งแต่งานธุรการไปจนถึงงานบริหารการศึกษา
  4. มีการอัปเดต และ การแจ้งเตือนต่างๆ สนับสนุนการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์แบบแพลตฟอร์มสมัยใหม่ แทนหนังสือเวียน หรือ จดหมายแจ้งแบบเดิม
  5. มีความปลอดภัยของข้อมูลที่เชื่อมั่นได้

เป็นอย่างน้อย!

ท่านที่สนใจ EDRP หรือ Education Resource Planning หรือ Education Management Systems ทั้งระดับที่ปรึกษาและพัฒนาระบบ… Line ID: dr.thum ครับ

References…

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest
Tumblr

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts