ข่าวจาก SME D Bank โดยคุณนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ ธพว หรือ SME D Bank ฝากข่าวผ่านสื่อทุกช่องทางถึง SMEs ว่า… ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ซึ่งขานรับนโยบายภาครัฐ ช่วยเหลือลูกค้าธนาคาร และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ให้เข้าถึงเงินทุน นำไปเสริมสภาพคล่อง ฟื้นฟูธุรกิจ รักษาการจ้างงาน และ สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ผ่านมาตรการสนับสนุนการให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจ หรือ สินเชื่อฟื้นฟู ของกระทรวงการคลัง และ ธนาคารแห่งประเทศไทย ตามพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2564
สำหรับสินเชื่อฟื้นฟู เปิดกว้างคุณสมบัติบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล กู้ได้ทั้งลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ กำหนดวงเงินขอสินเชื่อต่อราย สำหรับลูกค้าเดิม ไม่เกิน 30% ของวงเงินสินเชื่อที่มีอยู่กับธนาคาร ณ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 หรือ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า… หากเคยได้รับวงเงิน Soft Loan เดิมตามตามพระราชกำหนดการให้นับรวมด้วย… โดยไม่เป็น NPL ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2562 และสำหรับลูกค้าใหม่ ที่ไม่มีวงเงินสินเชื่ออยู่กับสถาบันการเงิน ณ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ขอสินเชื่อได้สูงสุดไม่เกิน 20 ล้านบาท
ทั้งนี้… ลูกค้าทั้งสองกลุ่ม จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพียง 2% ต่อปี ใน 2 ปีแรก พร้อมทั้งได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก โดยการสนับสนุนชดเชยจากรัฐบาล หลังจากนั้น อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามเกณฑ์ธนาคาร โดยตลอด 5 ปีแรก เฉลี่ยไม่เกิน 5% ต่อปี กำหนดระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 7 ปี และได้รับการยกเว้นชำระคืนเงินต้น หรือ Grace Period สูงสุดไม่เกิน 12 เดือน เพื่อช่วยลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ นอกจากนั้น ยังได้รับการค้ำประกันจากบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. ตลอดอายุสัญญา
สำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจ แจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อได้ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ของ SME D Bank… Line ID: SME Development Bank และแอปพลิเคชัน SME D Bank ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android… รวมถึง SME D Bank ทุกสาขาทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 1357
ท่านที่ยังสู้อยู่… หาทางตุนเงินสด หรือ เปิดวงเงินไว้ก่อนเถอะครับ ต่อให้เสร็จศึกโควิดปลายปีจริงตามคาด แต่ผลกระทบยังอีกยาวนานแน่ครับ!
References…