ความเคลื่อนไหวจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ กระทรวง อว. ในมิติของการพัฒนาผู้ประกอบการ ซึ่งสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาควรมีบทบาทชัดเจน ในการพัฒนาคนเพื่อให้เป็นผู้ประกอบการให้มากขึ้น แทนที่จะสอนคนมาเพื่อเป็นมนุษย์เงินเดือน แล้วก็ไปวัดกันว่าบัณฑิตจบใหม่หางานทำได้เท่าไหร่อย่างเดียว… การมีกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ TED Fund ที่ขับเคลื่อนโดยกระทรวง อว. เพื่อให้โอกาสนักศึกษาในมหาวิทยาลัยและคณาจารย์ได้สัมผัสกับโลกความจริงในระดับผู้ประกอบการ… จึงดีงามและถือว่ามาถูกทาง
ช่วงเดือนกันยายน ปี 2021 ที่ผ่านมา… TED Fund ก็มีการข่าวโครงการ TED Fundraising Program เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการสู่การระดมทุน ซึ่งถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมอย่างน่าสนใจ… เพราะขั้นตอนและตารางงานของโครงการถือเป็นโปรแกรมการคัดกรองผู้ประกอบการวิสาหกินเริ่มต้น หรือ Startup ชัดเจน
กองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ Technology and Innovation-Based Enterprise Development Fund หรือTED Fund เป็นกองทุนหมุนเวียนที่อยู่ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการจะนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจ
โดยเล็งเป้าหมายไปที่งานวิจัยที่เคยอยู่แต่ในห้องแล็บหรือบนหิ้ง ให้มีโอกาสนำมาพัฒนาในเชิงพาณิชย์… TED Fund จึงไม่ใช่กองทุนเพื่อสนับสนุนงานวิจัย แต่เป็นทุนสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยากจะเอางานวิจัยมาต่อยอด และ ทำให้เกิดธุรกิจเชิงเทคโนโลยีและนวัตกรรมขึ้น
เงินทุนจาก TED Fund เป็นเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่า แต่ผู้ประกอบการที่ได้สัญญาสนับสนุนทุนจะต้องสำรองเงินไปก่อน แล้วค่อยเบิกคืนกับ TED Fund… โดยไม่ต้องแลกเปลี่ยนอะไร แม้แต่การเป็นหุ้นส่วนกิจการ
ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม อธิบายพันธกิจของ TED Fund ที่มีต่อผู้ประกอบการไทยว่า… TED Fund มีความสำคัญในระดับการเพาะเมล็ดพันธุ์ หรือ Seeding เพื่อสร้างผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ ให้สามารถเริ่มต้นการทำธุรกิจได้ภายใต้พื้นฐานของเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยเฉพาะการเตรียมเงินทุนในโครงการยุวชนสตาร์ทอัพ หรือ TED Youth Startup เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเยาวชนไปสู่การเป็นผู้ประกอบการมากถึง 300 ทุนจากใบสมัครที่มีเข้ามาแล้วกว่า 1,000 โครงการ โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกแล้วกว่า 100 โครงการ
ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดชเล่าต่อว่า… น้องๆ หรือผู้ประกอบการที่มาขอทุนส่วนใหญ่มีไอเดียหรือเทคโนโลยีที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจอยู่แล้ว จะเป็นจากงานวิจัยในห้องแล็บหรือเปเปอร์ก็ตาม แต่การที่จะทำ Prototype หรือต้นแบบออกมานั้น ไม่ค่อยมีแหล่งเงินทุนที่จะให้กับผู้ประกอบการในส่วนนี้ ซึ่ง Prototype เป็นการพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีนั้นสามารถสเกลขึ้นมาได้ ขณะที่ฝั่งนักลงทุนก็ไม่อยากลงทุนเพราะว่าเป็นเทคโนโลยีที่ Early Stage มากๆ ยังมีความเสี่ยงอยู่ จึงเป็นหน้าที่ของ TED Fund ที่จะต้องลงไปช่วยเหลือสนับสนุน เพื่อจะพิสูจน์แนวคิดและพัฒนาต้นแบบให้สามารถไปต่อได้ในเชิงธุรกิจได้… เงินทุนจากโครงการ TED Youth Startup Fund จะลงไปสู่เด็กๆ ระดับมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุนี้จึงต้องมีพี่เลี้ยงคอยดูแลในเรื่องการทำธุรกิจ โดย TED Fund ตั้งกลไกหนึ่งขึ้นมาเรียกว่า TED Fellow ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทในการช่วยดูแลผู้ประกอบการทั่วประเทศที่ขาดทักษะและประสบการณ์ ทั้งในด้านเทคโนโลยีและการทำธุรกิจ โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด 19 โดยที่ผ่านมามีผู้ประกอบการที่ได้รับทุนจาก TED Fund จนสามารถต่อยอดสร้างธุรกิจขึ้นมาได้ มียอดขายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 30 เปอร์เซ็นต์ แม้จะไม่ได้ไปต่อในโครงการหรือ Product ที่ TED Fund ให้ทุนช่วยเหลือ แต่ก็ได้มีการแตกหน่อหรือปรับเปลี่ยน Product จนสามารถก้าวต่อไปได้
ผู้ประกอบการที่จะสามารถขอทุนจาก TED Fund นั้นจะต้องอยู่ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือ S-Curve โดยพื้นฐานเป็นเทคโนโลยีและนวัตกรรม… โดยในปีงบประมาณ 2565 จะโฟกัสเพิ่มใน 3 อุตสาหกรรมคือ การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ… อาหารแห่งอนาคต และ สมุนไพร หากผู้ประกอบการทำธุรกิจนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับ 3 กลุ่มนี้ก็จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
TED Fund จึงเข้าข่ายเป็นเงินทุนในระยะ Pre-Seed ที่เริ่มต้นให้กับน้องๆ ด้วยความที่เป็นเงินทุนให้เปล่า แต่ถ้าสามารถเริ่มต้นขึ้นมาได้แล้วอยากจะเติบโตในแบบ Startup ต่อไป
ในส่วนของเงินลงทุนสำหรับ Stage ถัดไปก็จะมีโปรแกรม TED Matching Fund ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการดึงดูดนักลงทุนมาร่วมลงทุนได้ง่ายมากยิ่งขึ้น… ยกตัวอย่าง มีผู้ประกอบการต้องการทุนต่ออีก 2 ล้านบาท เขามองแล้วว่า 2 ล้านบาทนี้น่าจะไปต่อได้ใน Stage ต่อไป อาจจะไปหาเงินทุนจาก Angel Investor มาได้ 1 ล้านบาท อีก 1 ล้านบาท TED Matching Fund จะช่วยออกให้ แต่เป็นรูปแบบของโครงการที่จะต้องมีการ Output-Outcome มีการรายงาน ตรงนี้น่าจะทำให้หลายดีลเกิดได้ง่ายขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงของทั้ง Angel Investor และตัว Startup เอง เป็นกลไกที่เราคิดไว้ที่จะช่วยให้เขาไปต่อได้อีก
สำหรับในปีงบประมาณ 2565 นั้น… TED Fund ได้เตรียมเงินทุนสำหรับ 3 โครงการสำคัญ ได้แก่
- โครงการ Youth Startup Fund จำนวน 150 ทุน ที่จะให้กับน้องๆ มีทั้งทุนที่เป็นไอเดียและทุนพิสูจน์แนวคิดพัฒนาต้นแบบ
- โครงการ TED Fund Market Scaling Up ที่เน้นในการขยายตลาดให้กับผู้ประกอบการ จำนวน 10-20 ทุน
- โครงการ TED Matching Fund จำนวน 5-10 ทุน
ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช ได้ฝากคำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการไทยส่งท้ายไว้ว่า… ต้องตามเทรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นให้ทัน และ ทุกๆ วิกฤตย่อมจะมีโอกาสอยู่เสมอ ดังนั้น ต้องกล้าเปลี่ยนแปลง และ ต้องปรับตัวเองให้เร็ว เมื่อปัญหาเปลี่ยนไป ก็จะต้องปรับเปลี่ยนมุมมองของตัวเอง… แล้วหา Pain Point ใหม่ที่เกิดขึ้นใน New Normal เพื่อที่จะเติบโตต่อไป
References…