10 มิถุนายน 2020 ราคาหุ้นของ Tesla พุ่งทะลุ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรก ถือเป็นการทำ New High หรือสถิติสูงสุดอีกครั้ง และขึ้นเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก แซงหน้าแชมป์ยาวนานอย่าง Toyota ด้วยมูลค่าตามราคาตลาด หรือ Market Capital แตะ 190 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่ราคาหุ้นจะอ่อนตัวกลับลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 1,000 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อปิดตลาดในวันที่ 12 มิถุนายน หรืออีกสองวันถัดมา
นักลงทุนและแฟนคลับของ Elon Musk ทั่วโลกตื่นเต้นกับตัวเลข Market Cap ของ Tesla ที่ 190 พันล้านดอลลาร์เทียบกับสินทรัพย์ของ Toyota ที่มีเพียง 182 พันล้านดอลลาร์เท่านั้นในวันที่ 10 มิถุนายน… ซึ่งกระแสความร้อนแรงของรถไฟฟ้า Tesla ที่ผ่านพ้นมรสุมมากมายจนถึงวันที่โรงงาน Gigafactory ในจีนสามารถเดินสายการผลิต พร้อมๆ กับการแหกมาตรการ Lock Down เพื่อเปิดโรงงานในสหรัฐที่สุดท้าทาย เพื่อไม่ให้ Supply Chain ของ Tesla ถูกใครหรืออะไรขวางกั้นได้ แม้จะเป็น COVID19 ที่มีข่าวว่ามีคนงานของ Tesla จากโรงงานใน Alameda County มีผลเป็นบวกในการทดสอบ COVID19 ก่อนหน้านั้นหลายรายก็ตาม
ประเด็นก็คือ… เฉพาะหน่วยธุรกิจผลิตรถยนต์ของ Tasla กับโมเดลรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอย่าง MODEL S, MODEL 3, MODEL X และ MODEL Y ก็ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในสหรัฐ แคนนาดายุโรปและในจีน… ในขณะที่รถกระบะ CyberTruck และรถบรรทุก Semi ก็นัดวันส่งมอบได้หมดแล้วทั้งสิ้น ไม่นับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ยังไม่มีใครก้าวทันความก้าวหน้าสูงสุดของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ Tesla ครอบครองสิทธิบัตรอยู่ในปัจจุบัน บวกกับแผนก Solar Commercial ที่เป็นเลิศอีกเช่นกันสำหรับโซลาร์เซลล์แบบต่างๆ จาก Tesla ที่เกิดขึ้นจากแนวคิด First Principles ที่ Elon Musk เชื่อมั่นและทำได้ครั้งแล้วครั้งเล่ากับการพัฒนานวัตกรรมขั้นสุดในทุกด้านที่ชายคนนี้หยิบจับทำ
สัปดาห์นี้ผมจึงอยากแนะนำให้รู้จักกับ EV รุ่นต่างๆ ที่ Tesla ออกแบบและผลิตจำหน่ายจนราคาหุ้นช่วงเผลอๆ สร้างปรากฏการณ์ล้มแชมป์อย่างโตโยต้าได้…
1. Roadster
รถสปอร์ตแบบ 2+2 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% กับสถิติ Quarter Mile ที่ 8.8 วินาที และวิ่งไกล 620 Miles หรือ 997.7 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าหนึ่งครั้งเต็ม
2. Model Y
EV ขนาดครอบครัว ภายในกว้างขวางจนใส่เบาะได้มากถึง 7 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์คู่แบบ All Wheel Drive วิ่งไกล 315 Miles หรือ 506.9 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าหนึ่งครั้งเต็ม
3. Model X
SUV EV แบบ 5 หรือ 7 ที่นั่ง All-Wheel Drive ที่มากับประตูคู่หลังแบบปีกนก ช่วยเพิ่มความสะดวกการขึ้นลงเบาะแถวสองและสามเป็นไปอย่างสะดวก วิ่งไกล 351 Miles หรือ 564.8 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าหนึ่งครั้งเต็ม
4. Model 3
รถนั่งขนาดกลาง ขับเคลื่อนด้วย Dual Motor แบบ All-Wheel Drive วิ่งไกล 322 Miles หรือ 518 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าหนึ่งครั้งเต็ม
5. Model S
รถนั่งโมเดลหรูหราสุดของ Tasla แบบ 5 ที่นั่ง All-Wheel Drive วิ่งไกล 348 Miles หรือ 560 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าหนึ่งครั้งเต็ม
6. Cybertruck
กระบะ EV สมรรถนะสูงกับแนวคิดการออกแบบสุดล้ำ มาพร้อมตัวเลือก ระบบขับเคลื่อนทั้ง Single Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง… Dual Motor และ Tri Motor ขับเคลื่อน 4 ล้อ


7. SEMI
หัวลากบรรทุก EV ที่ไม่ได้มีแต่พละกำลัง… แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย โดยเฉพาะระบบขับเคลื่อนแบบ 4 มอเตอร์ที่เพลาหลัง และความยืดยุ่นในการออกแบบใช้งานการบรรทุกและขนส่ง
ทั้งหมดคือ EV ทรงพลังจากแนวคิดที่ต่างจากการออกแบบยานพาหนะแบบดั้งเดิมทั้งหมด ทุกรุ่นรองรับการขับขี่อัตโนมัติ ทั้งวิ่งบนถนนและเข้าช่องจอด… Update Firmware หรืออัพเกรดซอฟท์แวร์ในกล่องควบคุมเองโดยไม่ต้องไปศูนย์บริการ… และอะไรอีกมากมาย โดยเฉพาะเงื่อนไขการขายและรับประกันก็บอกได้คำเดียวว่า… Tesla ไม่ใช่เกิดมาเพื่อล้มแชมป์แน่นอนแล้ว… แต่เกิดมาเพื่อเป็นที่หนึ่งในยุคสมัยการใช้พาหนะไฟฟ้า
คิดง่ายๆ แค่ว่า… Tesla มีรถทำตลาดแค่ 7 รุ่น ที่กำลังการผลิตอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้น… ปรากฏการณ์ “เกิดมาเป็นที่หนึ่ง” สำหรับ Tesla จึงไม่ได้เกินเลย
อ้างอิง