ภาวะลังเลกับเป้าหมายและตกหลุมพลางความล้มเหลวจากมายาคติของตัวเอง แบบที่ Seth Godin อธิบายผ่านแนวคิดชื่อ The Dip เผยแพร่เป็นหนังสือชื่อเดียวกัน ซึ่งแก่นของภาวะ The Dip จะเป็นหลักคิดส่วนตนในช่วงเวลาหนึ่ง ซึ่งไม่ว่าเราจะทำอะไรใหม่ก็แล้วแต่ แรกๆ จะสนุกและตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่ แต่พอเวลาผ่านไประยะหนึ่ง เมื่อเจ้าตัวผ่านประสบการณ์ที่สนุกตื่นเต้นไปแล้ว ได้เรียนรู้และประเมินตัวเองพอที่จะตัดสินใจได้แล้วว่า… จะพยายามต่อไป หรือ เลิกล้มดี… คนส่วนใหญ่จะเลิกล้มและถอดความเพียรพยายามออกจากเป้าหมายนั้นไป แม้หลายครั้งต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่…
ประเด็นก็คือ… ในตัวเราทุกคนล้วนมีด้านดีและด้านร้าย ซึ่งมีเรื่องเล่าผ่านตัวขาวตัวดำหรือเทวดากับซาตานในตัว ที่คอยดึงรั้งการตัดสินใจให้ พยายามต่อไป หรือ เลิกล้มไปทำอย่างอื่น แม้ว่าอย่างอื่นที่อ้าง จะยังว่างเปล่าจนไม่มีอะไรเลยก็ตาม… โดยเฉพาะในตัวของนักเรียนซึ่งวุฒิภาวะยังน้อยจนไม่รู้เท่าทันด้านมืดในตัวเองที่อยากเล่นสนุกและทำแต่สิ่งที่รักที่ชอบมากกว่า… การสร้างแรงต้านด้วยการใส่ความพยายามให้กับการเรียน ซึ่งไม่สนุกและมีหลายอย่างที่ไม่ชอบหรือถูกใจ… ความล้มเหลวที่สะท้อนผ่านผลการเรียนอันเกิดจาก “แรงเพียรพยายามต่อการเรียนลดลง” จนสร้างหลุมพรางอื่นๆ ใส่เส้นทางชีวิตต่อเนื่องไม่รู้จบไปแสนนาน จึงปรากฏให้เห็นมากมาย
ในหนังสือ The 4 Disciplines of Execution ของ Chris McChesney… Jim Huling and Sean Covey ซึ่งเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างเส้นทางสู่เป้าหมายที่สำคัญ หรือ Critical Goals สำหรับทุกคนที่อยากเอาชนะเจ้าตัวดำหรือซาตานที่คอยดึงความสนใจเข้าหาเกมส์คอมพิวเตอร์ หรือซีรีย์ 10 ซีซั่น 100 ตอนจบ และทิ้งการเรียนหรือธุระการงานที่จะมอบความสุขระยะยาวให้มากกว่า… โดยโยนเวลาและโอกาสลงไปให้เจ้าตัวดำกลืนเป็นอาหารจนแข็งแกร่งและมีสิทธิ์เสียงและอิทธิพลเหนือการตัดสินใจ
ก่อนอื่นขออนุญาตเรียนทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้ให้ทราบไว้เป็นเบื้องต้นก่อนว่า… หนังสือ The 4 Disciplines of Execution ที่ใช้อ้างอิงนั้น โดยวัตถุประสงค์เป็นหนังสือแนวบริหารจัดการกลยุทธ์ ที่เน้นการนำแผนไปปฏิบัติ หรือ Executed ให้ประสบความสำเร็จ แต่ในกรณีนี้… ผู้เขียนหนังสือ The Student Mindset คือ Steve Oakes และ Martin Griffin ได้นำแนวทาง 4 Disciplines มาใช้ในการสร้างผลสำเร็จตามแผนการเรียนที่วางแนวทางไว้ตั้งแต่ต้นอย่างดี ไม่ให้ถูกโน้มนำจากแรงดึงดูดในหลุมพลาง The Dip ที่เป็นด่านสำคัญที่ต้องผ่านไปให้ได้ และชีวิตจุ่มจมลงในความล้มเหลวเสียก่อน… ซึ่งหลักประกันที่จะพยุงตัวให้ผ่านช่วงเวลาเหนื่อยหน่ายสับสนนี้ได้ สามารถพึ่งพา การฝึกควบคุมตนให้ลงมือทำตามแผนให้สำเร็จเสร็จสิ้น… จนเป็นอุปนิสัยแห่งความสำเร็จติดตัว และทำลายด้านมืดในตัวให้ขาดพลังโน้มน้าวให้ออกจาก “ความพยายามไปให้ถึงเป้าหมาย”
หนังสือ The 4 Disciplines of Execution มีแนวทางที่ชัดเจน ในการปกป้องความสำเร็จจากทุกหลุมพรางความล้มเหลว ทั้งระดับบุคคลและระดับองค์กร ซึ่งมีประเด็นง่ายๆ เพียง 4 แนวทางคือ
Discipline 1… Keep Your Focus Narrow หรือ เน้นโฟกัสอย่างเฉพาะเจาะจง
การให้ความสำคัญกับเป้าหมายที่สำคัญเท่านั้น… คือประเด็นหลักที่ต้องฝึกควบคุมตนให้เข้าใจความสำคัญของเป้าหมายเฉพาะที่คมชัดและเจาะจง… อารมณ์แบบอยากเรียนก็อยาก อยากลาออกไปทำ Startup เพื่อเป็นอายุน้อยร้อยล้านก็อยาก… ท่านคงนึกออกว่าคนที่โลเลแบบนี้จะทำเป้าหมายไหนได้ยอดเยี่ยมบ้าง…
Discipline 2… Act on Leading Indicators หรือ ตอบสนองต่อดัชนีชี้วัดนำทางเท่านั้น
การระบุตัวชี้วัดเอาไว้เพื่อประเมินว่าเราทำอะไรไปถึงไหนและทำได้ดีแค่ไหน… ซึ่งสะท้อนผ่านผลลัพธ์ต่างๆ ที่ชัดเจนนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการตอบสนองต่อผลลัพธ์ดังกล่าวแบบไหนอย่างไร… คำแนะนำคือ การตั้งเกณฑ์ประเมินเพื่อเป็นตัวเทียบวัดผลลัพธ์ควรทุ่มเทไปที่ Leading Indicator และหลีกเลี่ยง Lagging Indicator… ซึ่ง Leading Indicator มักจะอยู่ในรูปพฤติกรรมและอุปนิสัยที่ตอบสนองต่อผลสำเร็จและประสิทธิภาพจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งจะตรงข้ามกับการหมกมุ่นกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งเป็นอดีตที่เสียเวลาแม้แต่จะคิด เพราะไม่สามารถกลับไปแก้อะไรได้… ซึ่งคำกล่าวประชดประชันที่พูดถึงคนติด Lagging อยู่ในอดีตจะเป็น “พวกรู้อะไรไม่สู้รู้ยังงี้…”
Discipline 3: Keep a Compelling Scoreboard หรือ เอาความคืบหน้าขึ้นกระดานให้เห็นชัดๆ
การเห็นความคืบหน้าในการพยายามทำเรื่องดีๆ ให้ตัวเอง โดยมีเป้าหมายความสำเร็จขนาดใหญ่ เป็นผลลัพธ์รวมที่เกิดจากวินัยรายวันหรือชิ้นส่วนความสำเร็จที่ต้องสะสม เพื่อผ่านตั้งแต่ความสำเร็จ 1% ไต่ไปจนถึง 100% ซึ่งคำแนะนำเรื่องการเขียนกระดานบอกตัวเองว่า… ได้ทำตามแผนไปถึงไหนแล้วเพื่อให้เห็นความพยายามของตัวเองจากวันแรกจนถึงวันนี้… หรือจาก 1% จนสะสมเปอร์เซนต์ได้เท่าปัจจุบันนี้ จะทำให้เราเห็นเป้าหมายความสำเร็จขนาดใหญ่ที่ใกล้เข้ามาอย่างท้าทาย
Discipline 4: Create a Cadence of Accountability หรือ รับผิดชอบอย่างสม่ำเสมอ
การสร้างนิสัยรับผิดชอบเป้าหมายด้วยการเพียรสะสมชิ้นส่วนความสำเร็จอย่างสม่ำเสมอ ถือเป็นหัวใจหลักในการฝึกฝนเพื่อเป็นคนที่มีอุปนิสัยเพื่อความสำเร็จโดยปริยายอย่างแท้จริง… ซึ่งการรับผิดชอบเป้าหมายระยะยาวที่วาดหวังด้วยความเพียรพยายาม โดยไม่เสียเวลาหาทางหลบเลี่ยง บ่ายเบี่ยง หรือรอความช่วยเหลือที่ไม่มีอยู่จริงจนหมดเวลาไปวันแล้ววันเล่า… ซึ่งแปลว่า ต้องเพียรทำตามแผนด้วยตนเองต่อเนื่องไปเรื่อยๆ จนถึงเป้าหมาย ซึ่งการเพียรทำอย่างสม่ำเสมอจนกลายเป็นคนที่มี Discipline ต่อความสำเร็จแบบนี้ได้แล้ว จะแปลว่าคนผู้นั้นมีนิสัยเพื่อความสำเร็จที่ชัดแจ้งแล้ว
ประเด็นทั้งหมดเป็นแบบนี้ครับ… คำแนะนำเรื่องการออกจากภาวะลังเลกับเป้าหมายและตกหลุมพลางความล้มเหลวจากมายาคติของตัวเอง ซึ่งหนังสือ The Student Mindset เจาะจงเลือกใช้คำว่า “Discipline” ซึ่งเป็นการ “ครองตน” เพื่อให้ทำแต่สิ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จที่หวังผลได้ โดยนิยามของคำว่า Discipline อันมีนัยยะของการควบคุมตัวเองให้ได้… เพียง 4 แนวทางที่กล่าวไปนั้น ก็เพียงพอที่จะนำไปปรับใช้กับผลสำเร็จใหญ่ๆ อย่างการศึกษา หน้าที่การงานและครอบครัว… ที่รวมเข้ากันเป็นผลลัพธ์ระดับความสำเร็จในชีวิตได้
ไม่เชื่อลองฝึกสร้าง Discipline ตามแนวทางนี้ดูไปซัก 5-6 ปีก็คงเห็นผลแล้ว…
บทความชุด VESPA Mindset ถอดความจากหนังสือ The Student Mindset ตอนอื่นๆ ที่ท่านอาจจะสนใจครับ
- Vespa Mindset
- Students’ Vision and Attitude… จุดเริ่มต้นของ VESPA Model
- 15 Possible Motivations… พลังงานขับเคลื่อนพฤติกรรมการเรียนรู้
- 5 Roads of Vision Activity
- The Roadmap of Vision for Student Mindset
- Weekly Rule of Three… เมื่อความเพียรสำคัญต่อความสำเร็จ
- Collecting and Shaping for VESPA Mindset… รวบรวมและเรียบเรียง
- Mapping New Territory for VESPA Mindset แผนที่การเรียนรู้สิ่งใหม่
- Knowledge Organizer for VESPA Mindset
- Creativity Organizer for VESPA Mindset
- Enjoy–Understanding Metrix… เครื่องมือประเมินกิจกรรมการเรียนการสอน
- Types of Attention… ระดับความสนใจใฝ่เรียน
- Flow for VESPA Mindset… เมื่อผู้เรียนก็ต้องการจดจ่อดำดิ่งกับการเรียน
- Feedback for VESPA Mindset… เมื่อผู้สอนต้องฟังผู้เรียนให้มาก
- Information Overwhelm and VESPA Mindset… เมื่อข้อมูลหลากล้น
- Adapting Testing and Performing… ปรับเปลี่ยน ลองเรียนและลุยเลย
- Information + Experience = Knowledge… สูตรเรียนเก่งแบบ VESPA Mindset
- Independent Effort Activity Design… ออกแบบกิจกรรมที่ต้องพากเพียรเรียนรู้และฝึกฝน
- K-SPA… เครื่องมือฟันฝ่าอุปสรรค
- Problem Solving Cycle for VESPA Mindset
- The Art of Reactions to Feedback… ศิลปะการรับมือกับเสียงติชม
- The Dip… ช่วงเวลาอันอ่อนไหวเปราะบางต่อความสำเร็จ
- Dalio’s 5 Step Process for VESPA Mindset