Dr. Jeffrey Stephen Wigand เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านชีวเคมี หรือ Biochemist ผู้เคยดำรงค์ตำแหน่งรองประธานฝ่ายวิจัยและพัฒนายาสูบของ Brown & Williamson ในเมือง Louisville, Kentucky ผู้ผลิตบุหรี่ชื่อดังหลายแบรนด์เช่น Barclay, Belair, Capri, Carlton, GPC, Kool และสิทธิ์ส่งออกบุหรี่ยี่ห้อ Lucky Strike ซึ่ง Brown & Williamson ได้สิทธิ์จาก American Tobacco Company มาตั้งแต่ปี 1960… กรณี Lucky Strike ถือเป็นบุหรี่ที่คนอเมริกันนิยมสูบกันมากในยุค 60-70 และเป็นหนึ่งในแบรนด์บุหรี่ยอดนิยมที่กองทัพสหรัฐ จัดให้เป็นสวัสดิการของทหารแนวหน้า โดยเฉพาะทหารในสงครามเกาหลีและสงครามเวียดนาม ก่อนจะยกเลิกในปี 1976 เพราะทหารที่ติดบุหรี่เหล่านี้ ล้วนป่วยไข้ด้วยอาการทางปอดทั้งสิ้น
ชาวอเมริกันรู้จัก Jeffrey Wigand จากรายการโทรทัศน์ชื่อดังของอเมริกาอย่าง 60 Minutes Overtime ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี 1996… จากประเด็นเปิดโปงอันตรายของบุหรี่ ที่ชายคนนี้ต่อต้านส่วนผสมที่เป็นพิษในบุหรี่ ของบริษัทที่เขาทำงานให้ จนถูกไล่ออกจากงานพร้อมสัญญาห้ามเปิดเผยความลับใดๆ ท่ามกลางกระแสการฟ้องร้องบริษัทผลิตบุหรี่ที่ลุกลามไปทั่วสหรัฐ ที่มีผู้ป่วยและเสียชีวิตจากสาเหตุของการสูบบุหรี่ ที่แม้แต่บริษัทประกันเองก็รับผิดชอบไม่ไหว และอยู่เบื้องหลังการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทผลิตและจำหน่ายบุหรี่เหล่านี้ด้วย
ภาพยนต์เรื่อง The Insider เป็นเรื่องราวของ Jeffrey Wigand พยานปากสำคัญคดีฟ้องร้องผู้ค้าบุหรี่ในสหรัฐ และ Lowell Bergman ในฐานะ Producer รายการ 60 Minutes ผู้รักษาจรรยาบรรณผู้สื่อข่าวทุกวิถีทาง ปกป้องแหล่งข่าวที่ถูกนายทุนกดดันสารพัด เพื่อปกปิดความผิดและกลโกงการทำธุรกิจอันไร้ศีลธรรม
Russell Crowe รับบทเป็น Jeffrey Wigand อดีตรองประธานบริษัทค้าบุหรี่รายใหญ่ ที่ถูกไล่ออกเพราะรับไม่ไหวกับกรณีสารเติมแต่งในบุหรี่หลายตัวที่ Brown & Williamson ใส่เพิ่มเข้าไปเพื่อให้ลูกค้า “ติดบุหรี่” หนักขึ้นและยังทำลายสุขภาพอย่างมาก… Jeffrey Wigand ถูกไล่ออกและถูกบังคับให้เซนต์สัญญายินยอมจะไม่เปิดเผยข้อมูลของบริษัททุกกรณี แลกกับสวัสดิการทางการแพทย์และเงินชดเชยที่ Jeffrey Wigand ต้องการคงไว้ให้ลูกสาวคนโตที่เป็นหอบหืดขั้นรุนแรงต้องหาหมอและใช้ค่ารักษาพยาบาลจำนวนมาก… Jeffrey Wigand ต้องขายบ้านหลังใหญ่แล้วพาครอบครัวไปซื้อบ้านหลังเล็กพออยู่ได้ และไปสมัครงานเป็นครูสอนเคมีในโรงเรียนมัธยม
ระหว่างนั้น… Lowell Bergman ซึ่งรับบทโดย Al Pacino, Producer รายการ 60 Minutes ติดต่อขอสัมภาษณ์ Jeffrey Wigand ออกรายการ 60 Minutes เพื่อให้ข้อเท็จจริงเปิดเผยสู่สาธารณะ ให้คนสูบบุหรี่ตาสว่าง และเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีบริษัทยาสูบทั้ง 7 รายในอเมริกา… แต่เทปรายการ 60 Minutes ตอนนั้นถูกฝ่ายบริหารของสำนักข่าง CBS ต้นสังกัดสั่งห้ามออกอากาศ เนื่องจากกลัวถูกบริษัทยาสูบฟ้องร้องจนล่มจมไปกลับ Jeffrey Wigand
และนั่นทำให้ชีวิตของ Jeffrey Wigand ที่ตัดสินใจทำเรื่องเสี่ยงที่สุดในชีวิตล่มจมทันที เขาถูกขุดประวัติตั้งแต่เด็กมาแฉออกสื่อเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือล่วงหน้า หาก Jeffrey Wigand จะขึ้นให้การเป็นพยานในศาล
Lowell Bergman จึงต้องดิ้นรนทุกทางเพื่อช่วยแหล่งข่าวที่เขาเกลี้ยกล่อมจนสำเร็จ แต่ถูกหักหลังกลางอากาศและปล่อยให้ Jeffrey Wigand ต่อสู้เพียงลำพังและยังเจอมรสุมชีวิตทุกด้าน ที่แม้แต่ชีวิตแต่งงานของ Jeffrey Wigand ก็พังลงระหว่างนั้น… Lowell Bergman เลือกขอความช่วยเหลือจากเพื่อนนักข่าวที่ The New York Times และอีกหลายๆ สำนักข่าวทั่วสหรัฐ ให้ช่วยแฉความไม่ชอบมาพากลใน สำนักข่าว CBS กรณีเทปสัมภาษณ์ Dr. Jeffrey Wigand จนกระแสงสังคมกดดันให้เผยแพร่เทปรายการ 60 Minutes ในเวลาต่อมา… จนเกิด 60 Minutes Overtimes
ภาพยนต์เรื่อง The Insider ทำรายได้เพียง 60.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 68 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกฉายช่วงเดือนพฤษจิกายน ปี 1999… ถือเป็นหนังจากดารารุ่นใหญ่ที่ขาดทุนให้เห็นไม่บ่อย แต่ The Insider ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ในปี 2000 มากถึง 7 รายการ แต่ก็พลาดทุกรายการ ซึ่งเวทีออสการ์ปี 2000 เป็นของภาพยนต์เรื่อง American Beauty หลายรางวัล ซึ่งคนแพ้ไม่เสียใจเท่าไหร่เลย… แต่ The Insider ก็ได้รางวัลสาขาต่างๆ มากมายจากเวทีอื่นๆ มาปลอบใจถึง 10 รางวัล
The Insider เป็นหนังดูสนุก แม้จะมาจากเรื่องจริงที่ซับซ้อน แต่การทำบทและดำเนินเรื่องออกแนวสืบสวนสอบสวนชวนระทึกทั้งเรื่อง
ผมดู The Insider หลายรอบและเห็น Message หนึ่งที่บทภาพยนต์ดัดแปลงจากเหตุการณ์จริงเรื่องนี้ จงใจแทรกให้เห็นก็คือ บริบทของภรรยาและครอบครัวของผู้ชายสองคนท่ามกลางมรสุมชีวิต… ซึ่ง Jeffrey Wigand ผู้แต่งงานมีลูกกับผู้หญิงอ่อนไหวง่ายและรักตัวเอง ซึ่งเธอขอแยกทางจากสามีในห้วงเวลาที่คู่สมรสเผชิญหน้ากับความยากลำบาก ซ้ำเติมสถานการณ์… ในขณะที่ Lowell Bergman แต่งงานกับผู้หญิงที่เคียงข้างการตัดสินใจของสามี แม้ประเด็นที่ตัดสินใจทำ จะเข้าข่ายแว้งกัดนายจ้างเพื่อรักษาสัจจะและหน้าที่สื่อมวลชนที่เลือกรับผิดชอบสังคม มากกว่าเพื่อนร่วมงานและนายจ้างที่จ่ายเงินเดือนเลี้ยงครอบครัว จนเสี่ยงต่ออาชีพการงานและฐานะความเป็นอยู่
นี่คือเรื่องราวเหตุการณ์เปิดโปงครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง ที่สังคมอเมริกันช่วยกันจัดการอิทธิพลบริษัทบุหรี่ โดยมี Dr.Jeffrey Wigand เป็นไพ่ตาย จนทำให้เกิดการลงนามในสัญญายินยอมจากผู้ผลิตบุหรี่ทุกรายในสหรัฐอเมริกาที่ชื่อ The Tobacco Master Settlement Agreement ในปี 1998 และเกิดการควบคุมการผลิตและจำหน่ายบุหรี่ทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนต่อมา
โดยส่วนตัวผมชื่นชมคนที่ “เลือกทำสิ่งที่ถูก” และยอมแลกความเสียหายที่กระทบชีวิตตัวเอง แม้จะต้องบอบช้ำยาวนาน ต้องข่มและกดอัตตาตนลงอย่างยากลำบาก เหมือนที่ Dr.Jeffrey Wigand เลือกไม่วางยาพิษใส่มาในบุหรี่ แต่ตัวเองต้องเหลือรายได้จากงานสอนเคมีเด็กมัธยมเลี้ยงชีพในบ้านหลังเล็กๆ พออยู่ได้เท่านั้น ต้องยอมหันหลังให้ความรุ่งโรจน์สุขสบายของหน้าที่การงานในอดีต ทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้จะเปลี่ยนชีวิตตัวเองไปตลอดกาลก็ตาม
เชื่อเถอะ! โลกใบนี้คนดีมีมาก!
อ้างอิง