คนเป็นผู้นำ หรือ เป็นหัวหน้า หรือ เป็นผู้ที่มีอิทธิพลเหนือคนกลุ่มหนึ่ง… ซึ่งถือภาวะการนำ หรือ Leadership อันชัดเจนผ่าน “การตัดสินใจ” หลายๆ กรณีให้เห็นเป็นผลกระทบถึง “กลุ่มคนภายใต้ภาวะการนำ” อย่างชัดเจนและต่อเนื่อง… การตัดสินใจ และ พฤติกรรมของผู้นำที่แสดงออกต่อกลุ่มคนภายใต้ภาวะการนำจึงมีความสำคัญกับเงื่อนปมต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังการตัดสินใจ และ สื่อสารกลับไปถึงกลุ่มคนภายใต้ภาวะการนำทั้งหมด… การถือภาวะผู้นำจึงมีหลายประเด็นให้ “คิด และ ตรึกตรอง” ก่อนการตัดสินใจ รวมทั้งพฤติกรรมของผู้นำที่ใช้ปฏิสัมพันธ์กับทุกคนที่อยู่ภายใต้ภาวะการนำทั้งหมดด้วย
ประเด็นก็คือ… พฤติกรรมของผู้นำส่วนหนึ่งก่อปัญหาให้ความสัมพันธ์ระหว่างตนกับกลุ่มคนภายใต้ภาวะการนำ และ ส่งผลกระทบต่อความสำเร็จล้มเหลวขององค์กร และ ทีม… รวมทั้งตัวผู้นำ หรือ หัวหน้าคนนั้นด้วย
Professor Marcia Lynn Whicker เจ้าของผลงาน Toxic Leaders: When Organizations Go Bad และ เป็นศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จาก University of North Carolina at Chapel Hill ได้ระบุถึงพฤติกรรมผู้นำที่ทำพิษกับตัวเอง และ องค์กรถึงขั้นนำความล้มเหลวใหญ่หลวงมาสู่ตนเองกับกลุ่มคนภายใต้การนำ ซึ่งก็คือความล้มเหลวระดับทีมและองค์กร… ซึ่งมีพฤติกรรมที่ควรระมัดระวังหลักๆ ได้แก่ ผู้นำเผด็จการ และ ผู้นำที่ป่วยทางจิตแบบต่างๆ
งานตีพิมพ์ในหัวข้อ Petty Tyranny in Organizations ของ Professor Blake E. Ashforth ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาองค์กรจาก Arizona State University ได้บัญญัติคำเรียกพฤติกรรมผู้นำที่มีพฤติกรรมสุดอันตรายต่อองค์กรที่ตัดสินใจ และ สั่งการโดยใช้ “ความกลัว” แบบต่างๆ ขับเคลื่อนเป้าหมายว่า Petty Tyranny หรือ ทรราชน้อย… ผู้นำ และ การนำแบบ Tyrannical Style of Management หรือ การจัดการแบบเผด็จการทรราช ที่สร้างบรรยากาศหวาดกลัว และ หวั่นไหวให้มีอยู่ตลอดเวลาต่อการรับรู้ของทุกคน… จึงไร้ค่า และ ไร้ความหวังจนนำไปสู่ความล้มเหลวในท้ายที่สุดเสมอ
ผลการศึกษามากมายเกี่ยวกับความสำเร็จล้มเหลวขององค์กร มักจะเกี่ยวพันถึงผู้นำ และ รูปแบบการนำซึ่งมาจากพฤติกรรมของผู้นำอย่างมีนัยยะ… Professor Barbara Kellerman ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้าน Public Leadership ได้ระบุถึงลักษณะพื้นฐานของผู้นำยอดแย่ และ เลวร้ายเอาไว้ว่า… คนพวกนี้จะโดดเดี่ยว ก้าวร้าว ใช้ความรุนแรง เข้มงวดไม่ยืดยุ่นในการทำงานและสั่งการ ใจแข็ง เลือกปฏิบัติ และ ทุจริต โดยจะแสดงออกเป็นพฤติกรรมหลายอย่างให้เห็น เช่น
- Oppositional behaviour หรือ มีพฤติกรรมต่อต้าน หรือ ขวางโลก
- Plays corporate power politics หรือ เล่นการเมืองในองค์กร
- An over-competitive attitude หรือ ยินยอมชื่นชอบให้เกิดการชิงดีชิงเด่นเกินพอดี
- Perfectionistic attitudes หรือ ยินยอมชื่นชอบแต่ความสมบูรณ์แบบ
- Abuse of the disciplinary system หรือ ใช้กฏระเบียบโดยบิดเบือนเพื่อทำลายเพื่อนร่วมงาน
- Shallow and lack self-confidence หรือ ตื้นเขิน และ ขาดความมั่นใจในตนเอง
- Poor self-control and restraint หรือ ควบคุมตนเองไม่ดี และ ขาดความยับยั้งชั่งใจ
- Physical and psychological bullying หรือ คุกคามข่มขู่ทางร่างกาย และ จิตใจ
- Procedural inflexibility หรือ ยึดมั่นถือมั่นกับขั้นตอนมากกว่าเป้าหมาย หรือ ผลลัพธ์
- Discriminatory attitudes หรือ เลือกปฏิบัติและกีดกัน
- Causes division หรือ สร้างความแตกแยก
- Use divide and rule tactics หรือ ใช้เล่ห์เหลี่ยม “แบ่งแยก และ ปกครอง”
- Arrogant หรือ หยิ่งยโส
- Irritability หรือ ขี้หงุดหงิด
นอกจากนั้น… ยังมีพฤติกรรมของผู้นำอีกมากที่ก่อมลพิษให้องค์กร และ ผู้คนภายใต้การนำ จนเห็นลางความล้มเหลว และ เกิดล้มเหลวขึ้นจริงตามที่เห็นเป็นบรรยากาศเน่าๆ นำมาก่อนหน้านั้น… นักจิตวิทยาองค์กรส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า… พฤติกรรม Aggressive Narcissism หรือ ก้าวร้าวหลงตัวเองของผู้นำถือว่าอันตรายและเป็นภัยที่สุดสำหรับองค์กร และ ผู้คนภายใต้การนำนั้น
Professor Robert D. Hare ในฐานะนักจิตวิทยาจาก University of British Columbia ในแคนาดา เจ้าของ PCL-R model หรือ Hare Psychopathy Checklist-Revised ซึ่งเป็นแบบประเมินพฤติกรรมจิตเภทหลักที่มีใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก… ได้วิพากษ์ และ ชี้ให้เห็นพฤติกรรมเชิงจิตวิทยาที่ทำลายภาวะผู้นำอย่างชัดเจนไว้ว่า…
- Glibness and superficial charm หรือ ขี้โอ่ฉาบฉวย
- Grandiose sense of self-worth หรือ หลงผิดต่อคุณค่าของตน
- Pathological lying หรือ โป้ปดมดเท็จเป็นนิสัย
- Cunning and manipulative หรือ เจ้าเล่ห์ และ บงการ
- Lack of remorse or guilt หรือ ไร้สำนึกผิดชอบ
- Callous and lack of empathy หรือ ใจร้าย และ ขาดความใส่ใจต่อผู้อื่น
- Shallow emotional affect หรือ อารมณ์แปรปรวน
- Failure to accept responsibility for own actions หรือ ไม่รับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง
ประมาณนี้ครับ… ไว้โอกาสหน้าค่อยแกะเนื้อหาและแตกประเด็นต่อจากนี้ ซึ่งยังมีแง่มุมให้พูดถึงอีกมาก ตอนนี้แปลไป เรียบเรียงไปก็รู้สึกเข้าตัวไปแทบทุกจะทุกพารากราฟ จนต้องขอพักตอนก่อนจะไม่เหลืออะไรให้หลอกตัวเองอีก!!!
References…