soy milk

Vegan กินช่วยโลก #FridaysForFuture

Vegan คือ เทรนด์อาหารรักโลกและรักสุขภาพ ที่เน้นเลือกใช้วัตถุดิบเป็นผักและผลไม้ ในสไตล์อาหารมังสวิรัติ ที่ช่วยทำให้การรับประทานในแต่ละมื้อ สร้างประโยชน์ต่อร่างกายอย่างสูงสุดโดยไม่เบียดเบียนสัตว์และสิ่งแวดล้อม… Vegan จึงถือเป็นอาหารทางเลือกที่ไม่ได้เพียงแค่กินเพื่อต้องการละเว้นเนื้อสัตว์ แต่ยังเลือกเฟ้นเอาประโยชน์โดยตรงต่อสุขภาพของคนทุกวัย และคำนึงถึงที่มาที่ไปของอาหารว่ากระทบสิ่งแวดล้อมแค่ไหนด้วย

Vegan เป็นมังสวิรัติสายเคร่งครัดกว่าการรับประทานแบบ Veggie… ซึ่งการรับประทานมังสวิรัติแบบ Veggie จะเว้นเนื้อสัตว์ ไปกินพืชผักผลไม้… แต่ยังคงเลือกรับประทานนม เนย ชีส และไข่ตามปกติ… 

ส่วนอาหาร Vegan ที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากนั้น แม้จะเน้นกินแต่พืชผัก ธัญพืช และผลไม้แล้ว… ส่วนผสมและวัตถุดิบที่มาจากสัตว์ เช่น นม เนย ชีส ไข่ น้ำผึ้ง หรือแม้แต่ยีสต์กับเจลาตินก็ห้ามใช้ในอาหารด้วย… นอกจากนั้น คน Vegan ยังไม่ใช้เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือใช้ของใช้จุกจิกต่างๆ ที่ทำมาจากสัตว์โดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นขน หนัง เขา กระดูก… รวมไปถึงทุกผลิตภัณฑ์ที่มีการนำสัตว์มาทดลอง 

เมนูอาหารชาว Vegan ที่ได้รับความนิยม คือ การกินเต้าหู้ ข้าวกล้อง ถั่วธัญพืช ผักทุกชนิด และผลไม้ รวมไปถึงเครื่องปรุงที่ไม่มีรสชาติแรงมากจนเกินไป พร้อมชดเชยแหล่งพลังงานจากเนื้อสัตว์ด้วยการรับประทานเป็นถั่วเหลือง ผักโขม สาหร่ายเกลียวทอง ถั่วพิสตาชิโอ มะม่วงหิมพานต์ เมล็ดเจีย บล็อกโคลี่ ผักกาดหอม ข้าวโอ๊ต… ส่วนกรดไขมันทางธรรมชาติที่กินแทนผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสัตว์ ได้แก่ ถั่ววอลนัท ถั่วแระ น้ำมันจากพืช และน้ำมันจากเมล็ดแฟลกซ์… แต่ชาว Vegan จะขาดวิตามิน จึงควรเลือกรับประทานวิตามินเสริมอย่างระมัดระวัง

อาหารที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาว Vegan ก็คือ การแปรรูปถั่วและธัญพืชต่างๆ ให้อยู่ในรูปของเครื่องดื่มที่เรียกว่า Plant Milk ทั้ง นมถั่วเหลือง นมอัลมอนด์ นมข้าวโอ๊ต และอื่นๆ อีกมากที่ปั่นและคั้นน้ำได้

ประเด็นก็คือ… ทุกครั้งที่ชาว Vegan พูดถึงอาหารจากเนื้อสัตว์ทำลายสิ่งแวดล้อมและชั้นบรรยากาศ ก็จะเกิดศึกข้อมูลถกเถียงกันเรื่อง รุกป่าปลูกถั่ว… เปลืองน้ำเลี้ยงวัว… ถั่ว 90% เอาไปเลี้ยงสัตว์… วัวกินถั่วให้นมมากกว่าเอาถั่วไปทำน้ำเต้าหู้… และอีกมากมุมมองของการมองต่างและคิดไม่เหมือนกัน

ข้อถกเถียงส่วนใหญ่จากฝั่ง Vegan จึงอ้างงานวิจัยของ Joseph Poore จาก University of Oxford หัวข้อ Reducing food’s environmental impacts through producers and consumers… ซึ่งการศึกษาของ Joseph Poore และ Thomas Nemecek ได้ทำการประเมินนมหลายชนิดเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และพบว่า… นมอัลมอนด์ต้องการน้ำในการผลิตมากกว่าถั่วเหลืองหรือนมข้าวโอ๊ต แต่ก็ยังต้องการน้ำน้อยกว่านมวัวทั่วไป

จะว่าไปแล้ว… การผลิตถั่วเหลืองและอัลมอนด์ทั่วโลกใช้ทรัพยากรด้านสิ่งแวดล้อมจำนวนมากไปกับปริมาณการผลิตมหาศาล ทั้งที่ดินและน้ำ… แต่นั่นไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมดว่า ถั่วเหลืองกว่า 90% ถูกเปลี่ยนเป็นอาหารสัตว์เพื่อสร้างเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากนม

#FridaysForFuture ครับ!

อ้างอิง

Facebook
Twitter
LinkedIn
Pinterest
Tumblr

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Recent Posts