ความปราถนาดีที่มักจะสร้างขึ้นจากความรักและเมตตา โดยมีความต้องการที่คนๆ หนึ่งอยากมอบให้คนอีกคนหนึ่ง บนความสัมพันธ์หรือสายสัมพันธ์ที่ความปราถนานั้น ต้องการให้รับรู้ได้ถึง “ความหวังดี” ที่ตนเชื่อมั่นในแบบของตน และ ต้องการให้คนที่ตนหวังดีได้รับความปราถนาดีจากตนเอาไปทั้งหมด
ประเด็นก็คือ… “ความหวังดี” เป็นมุมมองผ่านอัตตาตัวตนของคนๆ หนึ่ง ซึ่งเป็นชุดความคิดส่วนตัว ที่มักจะใช้เพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ที่มาพร้อม “การหวังผล” บางอย่างทั้งที่ชัดแจ้งและโดยนัยยะเสมอ… ความหวังดีจึงซุกซ่อนความมุ่งมาดปราถนาเอาไว้ในกล่อง ที่ถูกห่อด้วยความเมตตา ความรักและการให้ โดยส่งมอบพร้อมความอบอุ่นในแบบของคนจัดหาของขวัญแบบตามใจและตามอารมณ์คนให้… การหวังผลตามที่คาดหวังจึงไม่ง่ายที่จะถูกใจคนรับ เว้นแต่จะรู้จักคนรับอย่างดีและจัดหาส่งมอบความหวังดีตามความต้องการ หรือ Needs ของคนรับ ซึ่งเป็น “การให้” โดยไม่ปนเปื้อนความต้องการของผู้ให้ติดไปด้วย ซึ่งเป็นคนละกรณีกับความปราถนา
ความหวังดี กับ การหวังผล จึงไม่ได้ง่ายในทางเทคนิค โดยเฉพาะกับคนที่ความคิดจิตใจตื้นเขินที่เห็นแต่ความปราถนาของตน ก็เชื่อว่าเป็นความปราถนามาตรฐานโลกที่ทุกคนจะคิดและเชื่อในแบบเดียวกับตน… โดยไม่ใส่ใจความปราถนา ซึ่งสร้างมาจากความต้องการ หรือ Needs ของคนอื่น
ความคิดแบบปราถนาดี หรือ Wishful Thinking จึงมีรูปแบบของ “อคติทางปัญญา หรือ Cognitive Bias” ที่คนๆ หนึ่ง ส่งต่อการตัดสินใจในแบบที่ตนเชื่อว่าดีกับตน ไปให้ผู้อื่นที่ตน “ปราถนา” ให้เชื่อ ให้คิดและให้ตัดสินใจเหมือนตน… ความปราถนาดีที่ขาดความใส่ใจผู้อื่นอย่างแท้จริงจึงมีเส้นกั้นบางๆ ระหว่างความรักความเมตตา กับ การหวังผลบางอย่าง… ซึ่งเนื้อแท้อาจจะไม่ใช่ภาพดีงาม หรือ เป็นภาพชัดเจนเห็นเหมือนกัน ทั้งจากผู้ส่งความปราถนาดี และ ผู้ “ต้องรับ” ความปราถนาดีนั้น… ความปราถนาดีซึ่งในทางจิตวิทยาถือว่าเป็นความต้องการ หรือ Needs ที่ขาดตรรกะและเหตุผล จึงมีด้านมืดและผลกระทบในแง่ลบ หรือ Negative Effects ให้ต้องระมัดระวัง
เพราะเส้นกั้นมันบางมาก!!!
References…